ชาวท่าศาลาเตรียมรณรงค์ปฏิเสธประกาศสัตยาบรรณไม่เอาถ่านหิน

นครศรีธรรมราช - ชาวท่าศาลาเตรียมรวมพลต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินสุดฤทธิ์ อีกทั้งนักศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เผยโรงไฟฟ้าถ่านหินมีแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี และระดมพลนับหมื่น เตรียมรณรงค์ปฏิเสธโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินครั้งใหญ่ ในวันที่ 22-24 ก.พ.นี้

วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช “เครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา” นำโดยนายอภินันท์ เชาวลิต นายกอบต.ท่าศาลา นายบุญโชค แก้วแกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขึ้น นายอุดม ศรีนวล ข้าราชการครูบำนาญ นายอุดมศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนชลธาราม ผู้นำท้องถิ่นผู้นำชุมชนประมงพื้นบ้าน กว่า 50 คน ได้เข้าร่วมประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางในการจัดกิจกรรมครั้งใหญ่รณรงค์ในการปฏิเสธโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินที่กำลังเริ่มโครงการในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.54

นายอภินันท์ เชาวลิต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา กล่าวว่าเรื่องของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กำลังเข้ามาในพื้นที่นั้น ได้ศึกษาโรงไฟฟ้าประเภทนี้จากหลายแห่งแล้วพบว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี ดังนั้นการมีส่วนร่วมในการรับรู้ของชุมชนในพื้นที่ต่างสร้างขึ้นมาให้มีความสามัคคีเกิดขึ้นแล้วร่วมกันติดอาวุธทางปัญญา เป็นความเข้มแข็งของชุมชนที่จะร่วมกันปฏิเสธโรงไฟฟ้าถ่านหินได้อย่างสำคัญ

นายวันชัย แขกพงศ์ นักวิชาการเครือข่ายมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มอาจารย์ในมหาวิทยาลัย รวมทั้งเครือข่ายนักศึกษาที่แสดงตัวต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินมีจำนวนนับพันคนแล้ว ระยะนี้มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง การเรียนการสอนที่เกิดขึ้นในแต่ละวิชาจะใช้เวลาต้นคาบ 15 นาทีพูดถึงเรื่องของถ่านหินให้นักศึกษาทราบ ซึ่งในการร่วมรณรงค์นั้นจะมีเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ขณะที่นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว กลุ่มเครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา เปิดเผยว่า เป็นที่น่าชื่นชมในความร่วมมือขณะนี้สถาบันการศึกษาในระดับประถม มัธยม ในพื้นที่ได้แสดงเจตนามาแล้วว่าไม่เอาโรงไฟฟ้าประเภทนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งในการจัดกิจกรรมในวันที่ 22-24 นั้น มีสาระสำคัญในการรณรงค์ คือ กฟผ.บอกอยู่เสมอว่าหากประชาชนไม่เอาจะออกจากพื้นที่ทันที กิจกรรมของเราที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการแสดงถึงความสามัคคีที่แฝงไปด้วยพลังของประชาชนในพื้นที่ ไม่มีการประท้วง ไม่ชุมนุม ไม่ปิดถนน โดยมีความร่วมมือของทุกฝ่าย

“ประชาชนในพื้นที่จะไม่ต่อต้าน หรือไม่คัดค้าน แต่จุดหลักใหญ่ของเราคือ ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยไม่มีเงื่อนไข เราจะรณรงค์วิธีการที่แสดงออกถึงมิตรภาพบอกกล่าวให้ กฟผ.รับรู้ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธ แต่เราไม่เอาไม่ต้องเข้ามา วิธีที่เราทำกันนั้นเป็นวิธีง่ายๆที่เหมาะสมรณรงค์พูดคุยไปตามหมู่บ้านต่างๆ ระดมทุนกันเองเป็นหน้าที่ของชาวท่าศาลาทุกคน หลังจากนั้นจะร่วมกันลงนามทั้งผู้บริหาร อปท.ในพื้นที่ กำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ซึ่งเป็นงานที่แสดงถึงความรักความสามัคคีและเต็มไปด้วยมิตรภาพบอกกล่าวกันด้วยรอยยิ้ม” นายทรงวุฒิ กล่าว