สตูล - ตำรวจตระเวนชายแดน 436 ลงพื้นที่บริเวณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาค้อม เขาแดง และป่าเขาใหญ่ ขยายวงกว้าง พบสภาพพื้นที่ป่าไม้ ถูกบุกรุก แผ้วถางป่า และต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ ถูกตัดทิ้ง เป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมปรับสภาพเป็นสวนยางพารา พร้อมสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (3 ก.พ.) พ.ต.ต พิภพ พรหมยก ผู้บังคับการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 สั่งการเจ้าหน้าตำรวจตระเวนชายแดน 436 ร่วมกับ ชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รวมกว่า 20 นาย ลงพื้นที่บริเวณ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาค้อม เขาแดง และป่าเขาใหญ่ ในพื้นที่ ม.6 บ้านน้ำหลา ต.ทุ้งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล พบสภาพพื้นที่ป่าไม้ ถูกบุกรุก แผ้วถางป่า และต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ ถูกตัดทิ้ง เป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ กว่า 6 ไร่เศษ เช่น ต้นไม้เปรียงที่เป็นไม้ป่าสงวน ไม้หลุมพอขนาด 3 ถึง 4 คนโอบ และพบท่อนไม้ที่เตรียมเคลื่อนย้ายวางเกะกะในพื้นที่ประมาณกว่า 100 ต้น แต่ไม่พบกลุ่มตัดไม้แต่อย่างใด
สำหรับพื้นที่ ม.6 บ้านน้ำหลา ต.ทุ้งนุ้ย นั้นถือว่าพื้นที่ป่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยสภาพพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีไม้ยืนต้นมากมายขนาดใหญ่ โดยพื้นที่นี้เคย ถูกบุกรุกมาหลายครั้ง ด้านทางเจ้าหน้าที่ ตชด.436 ได้ตรวจสอบพบว่า พื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น จากการจับจุดพิกัด จีพีอาร์เอส ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งปัจจุบันสภาพพื้นที่ป่าถูกทำกลุ่มผู้บุกรุกแผ้วถางและทำเป็นสวนยางพารา
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ตชด.436 พบข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่พบว่า มีกลุ่มนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล ได้เคยว่าจ้างชาวบ้าน เข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่ารกร้างวันละ 200 บาท โดยชาวบ้านได้เข้าไปทำในพื้นที่ ซึ่งผู้มีอิทธิพลได้บอกว่า พื้นที่ป่านั้นมีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้อง จนมีการถูกเจ้าหน้าตำรวจป่าไม้เขามาตรวจชี้แจ้งว่า ป่าในพื้นที่เป็นของป่าสงวนแห่งชาติ ตนและชาวบ้านในพื้นที่จึงเลิกทำ ดั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ ตชด. 436 เตรียม ประสานงานทางจังหวัดสตูล ทำผลสรุปรายงานนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ตชด.436 ได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ โดยไม่มีผู้ต้องหา คือ ก่นสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำผิดด้วยประการใดอันเป็นการทำป่า หรือเข้ายึด หรือครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
