ลำปาง - เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบพิกัดป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย กับผู้ที่บุกรุกป่า หลังตรวจพบมีพื้นที่ป่าสงวนถูกบุกรุกไปกว่าพันไร่ พร้อมยึดเครื่องจักรได้ส่วนหนึ่ง
หลังจากเจ้าหน้าที่ นปพ.ภูธร จว.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่ตุ๋ยฝั่งขวา พบมีผู้นำเครื่องจักรเข้าไปบุกรุกปรับพื้นที่สวนป่าจนกลายเป็นพื้นที่โล่งเตียนเป็นบริเวณกว้าง จึงได้ยึดเครื่องจักรไว้ เพื่อตรวจสอบตั้งแต่วานนี้ (2 ก.พ.)
ตลอดทั้งวันนี้ (3 ก.พ.) พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายวิริชาติ เทียนขุนทด หัวหน้าหน่วยป่าไม้ ลป.7 (แม่ตุ๋ย), นายจรัส นีรนาทไพบูลย์ หัวหน้าสายตรวจภาคเหนือ (ศ.ป.ย.) ที่ 1 เชียงใหม่ ดูแล 9 จังหวัดภาคเหนือ หัวหน้าชุดปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติที่ 1 เชียงใหม่ และ ร.ต.อ.ปิยะพงษ์ ชีวชยาภรณ์ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง หัวหน้า ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภูธรจังหวัดลำปาง (นปพ.) พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย ได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่ถูกบุกรุก พร้อมนำเครื่องมือตรวจวัดพิกัด GPRS และแผนที่ เข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด
หลังจากที่มีการตรวจวัด 4 จุด พบว่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่เมาะแปลง2 ทั้งหมด รวมพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางจนโล่งเตียนมีกว่า 1 พันไร่ แต่จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีส่วนไหนบ้างที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกกัน เพื่อเตรียมออกเอกสารสิทธิให้กับผู้ครอบครองหรือไม่ หากพบว่าไม่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ผู้ที่บุกรุกก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ รวม 45,000 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่เมาะแปลง 2 และถูกบุกรุกไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ว่าฯ ได้ให้ใช้มติของ ครม.ปี 2528 ซึ่งจะต้องมีพื้นที่ที่ถูกยึดคืนไปเป็นของส่วนกลาง เพื่อให้ประชาชนใช้ร่วมกัน รวม 22,400 ไร่
ส่วนที่เหลือให้เร่งสำรวจผู้ครอบครองที่แท้จริง เพื่อพิจารณาออกเอกสารสิทธิให้ต่อไป ทำให้กลายเป็นช่องว่างเปิดโอกาสให้นายทุนเข้ากว้านซื้อที่มือเปล่าของชาวบ้าน พร้อมกับบุกรุกพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก เพื่อหวังจะได้รับการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวในเร็ววันนี้