ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักโทษชายเรือนจำกลางสงขลาคุ้มคลั่ง ทำร้ายหัวหน้าผู้คุมและเจ้าหน้าที่เรือนจำบาดเจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการจนกระทั่งเสียชีวิต แต่ญาติไม่ได้ติดใจเอาความ รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาแล้ว
วานนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.วัชรินทร์ ตันเจริญรัตน์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสงขลาว่า มีนักโทษชายเรือนจำกลางสงขลาเกิดอาการคุ้มคลั่งทำร้ายหัวหน้าผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำรวม 3 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ทางเรือนจำจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการจนเสียชีวิต
หลังรุดไปสอบสวนทราบชื่อนักโทษรายนี้คือ นายเอกราช กายพันธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่80 ซอย 14 ถ.ราษฎร์อุทิศ อ.เมือง จ.สงขลา ต้องโทษในคดีปล้นทรัพย์ และพยายามฆ่า ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุก 43 ปี และถูกควบคุมอยู่ในแดนสอง
โดยทางเรือนจำกลางสงขลาได้เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขณะที่ทหารเรือจากทัพเรือภาค 2 ได้เข้าไปฝึกระเบียบนักโทษภายในเรือนจำกลางสงขลาจำนวน 60 คน ปรากฏว่าระหว่างนั้น นักโทษชายเอกราช ได้เกิดอาการคุ้มคลั่งชกต่อยหัวหน้าผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าถึงขั้นเลือดอาบจำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงพยายามเข้าควบคุมเหตุการณ์และแยกนักโทษที่เหลือกลับเข้าไปยังแดน 2 เพื่อป้องกันเหตุชุลมุนบานปลาย
แต่นักโทษชายเอกราชยังคงอยู่ในอาการคุ้มคลั่งอย่างหนัก และพยายามทำร้ายผู้คุมจนไม่สามารถเข้าควบคุมตัวได้ เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการ ส่งผลให้นักโทษชายเอกราชได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเรือนจำกลางสงขลาได้ประสานไปยังญาติให้มารับศพ พร้อมกับชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับญาติได้ทราบ ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด และได้เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาแล้ว
วานนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.อ.วัชรินทร์ ตันเจริญรัตน์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสงขลาว่า มีนักโทษชายเรือนจำกลางสงขลาเกิดอาการคุ้มคลั่งทำร้ายหัวหน้าผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำรวม 3 คนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ทางเรือนจำจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการจนเสียชีวิต
หลังรุดไปสอบสวนทราบชื่อนักโทษรายนี้คือ นายเอกราช กายพันธ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่80 ซอย 14 ถ.ราษฎร์อุทิศ อ.เมือง จ.สงขลา ต้องโทษในคดีปล้นทรัพย์ และพยายามฆ่า ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุก 43 ปี และถูกควบคุมอยู่ในแดนสอง
โดยทางเรือนจำกลางสงขลาได้เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขณะที่ทหารเรือจากทัพเรือภาค 2 ได้เข้าไปฝึกระเบียบนักโทษภายในเรือนจำกลางสงขลาจำนวน 60 คน ปรากฏว่าระหว่างนั้น นักโทษชายเอกราช ได้เกิดอาการคุ้มคลั่งชกต่อยหัวหน้าผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าถึงขั้นเลือดอาบจำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงพยายามเข้าควบคุมเหตุการณ์และแยกนักโทษที่เหลือกลับเข้าไปยังแดน 2 เพื่อป้องกันเหตุชุลมุนบานปลาย
แต่นักโทษชายเอกราชยังคงอยู่ในอาการคุ้มคลั่งอย่างหนัก และพยายามทำร้ายผู้คุมจนไม่สามารถเข้าควบคุมตัวได้ เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการ ส่งผลให้นักโทษชายเอกราชได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเรือนจำกลางสงขลาได้ประสานไปยังญาติให้มารับศพ พร้อมกับชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับญาติได้ทราบ ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด และได้เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาแล้ว