ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งด่วนถึง ฉก.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ให้ฐานปฏิบัติการทุกแห่งวางมาตรการตามยุทธวิธีทางทหารป้องกันการถูกโจมตี และให้กำลังพลที่เป็นมุสลิมทำพิธีสาบานตน ว่าจะไม่เข้าเป็นแนวร่วมของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเป็นการป้องกันไส้ศึกในแต่ละฐานปฏิบัติการ
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีคำสั่งด่วนถึง ฉก.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา รวมทั้งฐานปฏิบัติการทุกแห่งใน 3 จังหวัด 4 อำเภอ ให้ฐานปฏิบัติการทุกแห่ง วางมาตรการตามยุทธวิธีทางทหาร และให้เพิ่มกำลังรักษาการณ์ในส่วนที่เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังละ 2 นาย และถ้ากำลังพลเป็นมุสลิมให้จัดกำลังพลที่เป็นไทยพุทธประกบคู่ และให้ผู้บังคับบัญชา เรียกกำลังพลที่เป็นมุสลิมทำพิธีสาบานตน (ซุมเปาะ) ว่า จะไม่เข้าเป็นแนวร่วมของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเป็นการป้องกันไส้ศึกในแต่ละฐานปฏิบัติการ
การสั่งการเพิ่มความเข้มงวดฐานปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากหน่วยข่าวความมั่นคง ได้รายงานให้ทราบว่า นายมะแซ อุเซ็ง แกนนำของบีอาร์เอ็นโคออดิเนต ได้วางแผนที่จะถล่มฐานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งก่อวินาศกรรมสถานที่ราชการครั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเสียหาย และบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กวาดล้าง จับกุม ผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ เพื่อให้เห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการประชุมองค์กรมุสลิมโลก หรือ โอไอซี ในเดือนมีนาคมนี้ที่ประเทศอียิปต์
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่เตือนให้ระวังหมู่บ้านสีเหลือง และสีเขียวจะตกเป็นเป้าในการโจมตี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีการป้องกัน เพราะเข้าใจว่าไม่ใช้พื้นที่อิทธิพลของขบวนการ
สำหรับอาวุธกระสุน และยุทโธปกรณ์ของฐาน ร.15121 ต.มะรือโบตก ที่ถูกละลายฐานไปนั้น สายข่าวในพื้นที่ได้รายงานให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าว่า ตรวจพบอาวุธมีการกระจายไปยังแนวร่วมในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส 5 กระบอก เป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก และปืนสั้น 2 กระบอก และที่ อ.ศรีสาคร เป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก ปืนสั้น 1 กระบอก ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้หน่วยข่าวในพื้นที่ได้ตั้งรางวัลให้กับผู้ชี้เบาะแส 100,000 บาท หากสามารถชี้เบาะแสของปืนและกระสุนว่าซ่อนอยู่ที่ไหน
ส่วนการสอบสวน เจ้าหน้าที่ทหารที่รอดชีวิตจากฐาน ร.15121 เพื่อหาข้อเท็จจริงซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ และทหารระดับ ส.ต. ส.ท.จำนวน 6 นาย พบว่า สาเหตุสำคัญที่ฐานถูกยึดไปอย่างรวดเร็วเกิดจากความหละหลวมไม่มีการป้องกันตามยุทธวิธี และหลังจากถูกตีฐาน กำลังพลส่วนใหญ่เสียขวัญ ไม่มีการต่อสู้ ยอมให้แนวร่วมยึดอาวุธ และกำลังในฐานปฏิบัติการที่ข้างเคียง
เช่น ฐานที่ สำนักสงฆ์บ้านลาโล๊ะ ห่างจากที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตร และฐานปฏิบัติการสามแยกบุลาไทรห่างจากจุดที่เกิดเหตุ 3 กิโลเมตร ไม่กล้าส่งกำลังมาช่วย เพราะกลัวถูกซุ่มโจมตีกลางทาง กลุ่มแนวร่วมใช้เวลาปฏิบัติการในฐาน 15121 กว่า 2 ชั่วโมง แต่หน่วยข้างเคียง ทุกหน่วยมุ่งรักษาฐานตนเอง กำลังชุดแรกที่เข้ามาถึงฐาน ร.15121 คือ กำลังจาก ฉก.ที่ตั้งฐานที่วัดบางนรา ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการที่ไกลจากที่เกิดเหตุที่สุด
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีคำสั่งด่วนถึง ฉก.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา รวมทั้งฐานปฏิบัติการทุกแห่งใน 3 จังหวัด 4 อำเภอ ให้ฐานปฏิบัติการทุกแห่ง วางมาตรการตามยุทธวิธีทางทหาร และให้เพิ่มกำลังรักษาการณ์ในส่วนที่เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังละ 2 นาย และถ้ากำลังพลเป็นมุสลิมให้จัดกำลังพลที่เป็นไทยพุทธประกบคู่ และให้ผู้บังคับบัญชา เรียกกำลังพลที่เป็นมุสลิมทำพิธีสาบานตน (ซุมเปาะ) ว่า จะไม่เข้าเป็นแนวร่วมของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเป็นการป้องกันไส้ศึกในแต่ละฐานปฏิบัติการ
การสั่งการเพิ่มความเข้มงวดฐานปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากหน่วยข่าวความมั่นคง ได้รายงานให้ทราบว่า นายมะแซ อุเซ็ง แกนนำของบีอาร์เอ็นโคออดิเนต ได้วางแผนที่จะถล่มฐานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งก่อวินาศกรรมสถานที่ราชการครั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเสียหาย และบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กวาดล้าง จับกุม ผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ เพื่อให้เห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการประชุมองค์กรมุสลิมโลก หรือ โอไอซี ในเดือนมีนาคมนี้ที่ประเทศอียิปต์
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่เตือนให้ระวังหมู่บ้านสีเหลือง และสีเขียวจะตกเป็นเป้าในการโจมตี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีการป้องกัน เพราะเข้าใจว่าไม่ใช้พื้นที่อิทธิพลของขบวนการ
สำหรับอาวุธกระสุน และยุทโธปกรณ์ของฐาน ร.15121 ต.มะรือโบตก ที่ถูกละลายฐานไปนั้น สายข่าวในพื้นที่ได้รายงานให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าว่า ตรวจพบอาวุธมีการกระจายไปยังแนวร่วมในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส 5 กระบอก เป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก และปืนสั้น 2 กระบอก และที่ อ.ศรีสาคร เป็นปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก ปืนสั้น 1 กระบอก ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้หน่วยข่าวในพื้นที่ได้ตั้งรางวัลให้กับผู้ชี้เบาะแส 100,000 บาท หากสามารถชี้เบาะแสของปืนและกระสุนว่าซ่อนอยู่ที่ไหน
ส่วนการสอบสวน เจ้าหน้าที่ทหารที่รอดชีวิตจากฐาน ร.15121 เพื่อหาข้อเท็จจริงซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ และทหารระดับ ส.ต. ส.ท.จำนวน 6 นาย พบว่า สาเหตุสำคัญที่ฐานถูกยึดไปอย่างรวดเร็วเกิดจากความหละหลวมไม่มีการป้องกันตามยุทธวิธี และหลังจากถูกตีฐาน กำลังพลส่วนใหญ่เสียขวัญ ไม่มีการต่อสู้ ยอมให้แนวร่วมยึดอาวุธ และกำลังในฐานปฏิบัติการที่ข้างเคียง
เช่น ฐานที่ สำนักสงฆ์บ้านลาโล๊ะ ห่างจากที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตร และฐานปฏิบัติการสามแยกบุลาไทรห่างจากจุดที่เกิดเหตุ 3 กิโลเมตร ไม่กล้าส่งกำลังมาช่วย เพราะกลัวถูกซุ่มโจมตีกลางทาง กลุ่มแนวร่วมใช้เวลาปฏิบัติการในฐาน 15121 กว่า 2 ชั่วโมง แต่หน่วยข้างเคียง ทุกหน่วยมุ่งรักษาฐานตนเอง กำลังชุดแรกที่เข้ามาถึงฐาน ร.15121 คือ กำลังจาก ฉก.ที่ตั้งฐานที่วัดบางนรา ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการที่ไกลจากที่เกิดเหตุที่สุด