ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล 6 จังหวัดอันดามัน ร่วมหารือเพื่อหาทางออกปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ระบุหลังมีมติ ครม.ช่วยเหลือชาวเล การแก้ไขปัญหาไม่คืบ
นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รอง ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานการสัมมนาเครือข่ายผู้เสียโอกาสคนจนเมืองและกลุ่มชาติพันธ์เพื่อการปฎิรูป กรณีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล โดยมีตัวแทนกลุ่มชาติพันธ์ชาวเล จาก 6 จังหวัดอันดามันกว่า 100 คน เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต
นายสนิท แซ่ชั่ว ตัวแทนกลุ่มกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลพื้นที่อันดามัน กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุสึนามิทำให้กลุ่มชาวเล กว่า 30 ชุมชน เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ปัจจุบันปัญหาของชุมชนชาวเลทั้งปัญหาดั้งเดิมและปัญหาใหม่ๆยังคงมีอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความไม่มั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยเพราะไม่มีเอกสารสิทธิที่ดินเป็นของตนเอง ปัญหาสุสานและที่ประกอบพิธีกรรมถูกรุกรานจากการท่องเที่ยว
โดยขณะนี้ชาวเลเองได้มีการรวมตัวกันจัดทำข้อมูล ประสานหน่วยงานราชการทนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหา กระทั่งล่าสุดได้มีมติ ครม.เห็นชอบในหลักการแนวนโยบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลตามแนวทางจัดทำพื้นที่วัฒนธรรมพิเศษชาวเล เมื่อ 2 มิ.ย.2553
แต่ขณะนี้ชาวเล คิดว่า มติ ครม.เป็นเพียงลายลักษณ์อักษรที่ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐเองไม่ได้นำพานำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง การสัมมนาในครั้งนี้จึงเป็นการประชุมเพื่อหารือพร้อมนำเสนอปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาไปยังภาครัฐนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดกับชาวเลบ้านแหลมตุ๊กแกจำนวน 17 คนที่ออกไปทำการประมงที่จังหวัดตรังแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมยึดเรือและของกลาง
ประกอบด้วย หอยหน้ายักษ์ หรือหอยสังข์หนาม หอยสังข์แดง ซึ่งถือว่าเป็นการจับกุมที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากสัตว์น้ำที่ชาวเลจับได้ๆไม่ได้เป็นการจับสัตว์น้ำในเขตอุทยานรวมถึงหอยทั้งสองชนิดที่ถูกยึดเป็นของกลางก็ไม่ได้เป็นสัตว์สงวนต้องห้ามแต่อย่างใด ล่าสุด คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและมีการปล่อยตัวชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งพนักงานอัยการว่ามีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่อย่างไร จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เห็นชัดว่า มติ ครม.เป็นเพียงลายลักษณ์อักษรที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตาม
ด้าน นางปรีดา คงแป้น คณะกรรมการสมัชชาปฎิรูปฯ เผยว่า ที่ผ่านมาพบว่าชุมชนชาวเลที่กระจายอยู่ใน 6 จังหวัดอันดามันกว่า 30 ชุมชน ยังคงประสบปัญหาทั้งด้านความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยเพราะไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน ปัญหาที่ทำกินอยู่ในเขตอุทยาน เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และถูกเอกชนกำหนดเขตท่องเที่ยว ปัญหาสุสานและสถานที่ประกอบพิธีกรรมถูกรุกรานจากการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และอื่นๆ เนื่องจากชาวเล เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่รักความสงบ วิถีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ไม่มีความรู้ และมักถูกเอาเปรียบ จึงเป็นกลุ่มที่เปราะบาง หากไม่มีการปกป้องจากสังคมอาจมีโอกาสสูญเสียความหลากหลายทางวัฒนธรรมในพื้นที่อันดามันได้
การจัดสัมมนาขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอย่างมีระบบมากขึ้น เพื่อจัดทำข้อมูลและประเด็นปัญหาที่เป็นปัจจุบันนำไปสู่การวางแผนและการทำงานเพื่อพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล รวมถึงการเรียนรู้สถานการณ์กลุ่มชาติพันธุ์ต่างในประเทศ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป
