xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์”หนุนระนองเป็นฮับสู่เอเชียใต้-เขตเศรษฐกิจพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชุมโลจิติกสัญจรที่ระอง
ระนอง-“อลงกรณ์ พลบุตร” หนุนระนองเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเลสู่เอเชียใต้ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขณะที่ภาครัฐ-เอกชนต้องการถนนสี่เลนและระบบรางเชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย เป็นอันดับแรก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการประชุมร่วมกับนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนจังหวัดระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เรื่อง โลจิสติกส์สัญจร เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจไทย ครั้งที่ 2/2554 ตามโครงการ “ยุทธศาสตร์ 3 วงแหวน 5 ประตูการค้า” ที่โรงแรมทินิดีระนอง ว่า  กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายผลักดันยุทธศาสตร์การค้าเพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยการขยายช่องทางการค้า 3 วงแหวน คือ กลุ่มอาเซียน, อาเซียนบวก 3 ,และอาเซียนบวก 6 ส่วน 5 ประตูการค้า คือ ด้านทิศเหนือ ,ใต้, อีสาน, ตะวันออก,และตะวันตก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคส่งออกของไทยอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเพิ่มมูลค่าการค้าการส่งออกของห้าประตูหลักและเชื่อมโยงในการขยายการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าการค้าชายแดนต่อปีไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาท สำหรับจังหวัดระนองมีจุดเด่นที่มีศักยภาพ 2 ส่วน คือ 1.สามารถเป็นฮับหรือศูนย์กลางของการขนส่งและการกระจายสินค้าในกลุ่มประเทศอ่าวเบงกอล นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป แปซิฟิก และแอฟริกา 2.เป็นแลนด์บริดจ์เชื่อมจากท่าเทียบเรือระนองฝั่งทะเลอันดามัน ไปยังฝั่งอ่าวไทย ซึ่งต้องหาท่าเทียบเรือคู่แฝดให้ได้ ส่วนจะเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หรือชุมพรต้องพิจารณากันต่อไป

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะวางยุทธศาสตร์ให้จังหวัดระนองเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศไทยกับอ่าวเบงกอล ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเช่นเดียวกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีนิคมอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เป็นแหล่งผลิตและกระจายสินค้า ซึ่งจังหวัดระนองมีจุดแข็งเรื่องแรงงาน ชายแดนไม่มีปัญหาชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านรัฐบาลพม่า

นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ปัจจุบันท่าเทียบเรือระนองสามารถรองรับเรือขนาด 12,000 ตัน แต่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มศักยภาพ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องถนนที่ยังเป็นถนนสองช่องจราจร ซึ่งทั้งภาคราชการและภาคเอกชนในจังหวัดเห็นตรงกันว่าที่ต้องมีการผลักดันให้ปรับปรุงถนนเพชรเกษมจากจังหวัดชุมพรไปยังจังหวัดระนองระยะทาง 112 กิโลเมตรเป็นสี่ช่องจราจรโดยเร็ว ซึ่งในปี 2554 นี้กรมทางหลวงได้รับงบประมาณก่อสร้างอยู่ในเขตจังหวัดระนอง 16 กิโลเมตร นอกจากนี้ต้องเชื่อมต่อระบบรางของทั้งสองจังหวัดด้วย ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการค้าชายแดนเป็นอย่างมาก

นายธงชัย ลิ้มตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จังหวัดระนองกับจังหวัดชุมพรเป็นเมืองคู่แฝดกันอยู่แล้ว เหมือนเมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งปัจจุบันจังหวัดชุมพรได้ศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างท่าเรือ 3 จุด ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ที่แหลมคอกวาง ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมเพียง 20 กิโลเมตร และห่างจากสถานีรถไฟบ้านวิสัยประมาณ 25 กิโลเมตร หากมีงบประมาณในการก่อสร้างจะสามารถเชื่อมโยงกับท่าเรือจังหวัดระนองได้เป็นอย่างดี

นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า จังหวัดระนองมีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิในที่ดิน ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ก่อน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าดับบ่อยและดับนาน หากมีนิคมอุตสาหกรรมกระแสไฟฟ้าไม่พอใช้อย่างแน่นอน ซึ่งต้องมีการสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ด้วย
ประชุมโลจิติกสัญจรที่ระนอง
กำลังโหลดความคิดเห็น