ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลมั่นใจ ดำน้ำ 3,000 คนไม่ทำลายแนวปะการังชายหาด กำหนดพื้นที่ทำกิจกรรมบนพื้นทรายล้วนๆ ขนาดกว้าง 100 เมตร ยาว 225 เมตร ลึก 10 เมตรห่างจากแนวปะการัง 220 เมตร
นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเล (อันดามันตอนบน) จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ ที่บริเวณหาดท้ายเหมือง จ.พังงา โดยเชิญชวนนักดำน้ำจำนวน 3,000 คน ร่วมทำกิจกรรม ว่า สำหรับการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะที่บริเวณแนวปะการังหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 3 เม.ย.53
ขณะนี้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้แนวปะการังบริเวณที่จัดกิจกรรมได้รับความเสียหาย ซึ่งในการดำเนินการยืนยันได้ว่า จะไม่กระทบกับแนวปะการัง ซึ่งได้มีการกำหนดพื้นที่ในการทำกิจกรรมนั้นจะเป็นพื้นที่ทรายล้วนๆ ไม่มีปะการัง จุดดำน้ำมีขนาดยาว 225 เมตร กว้าง 100 เมตร ลึก 10 เมตร
สำหรับแนวปะการังที่บริเวณหาดท้ายเหมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรม ได้มีการสำรวจแนวปะการังทั้งหมดแล้ว 2.7 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีแนวปะการังที่สมบูรณ์มาก แต่พื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเก็บขยะ หรืออื่นๆ จะอยู่บริเวณชายขอบแนวปะการังห่างจากแนวปะการัง มากถึง 220 เมตร โดยจะมีทุ่นกำหนดขอบเขตไว้ชัดเจนและจะมีเชือกสีเหลือง สีแดง กำหนดเขตไว้ใต้น้ำ
สำหรับนักดำน้ำที่ต้องการปล่อยหอยมือเสือ หรือดำเที่ยว (Fundrive) ซึ่งใช้พื้นที่ดำน้ำใช้ไม่ถึง 10% ของพื้นที่โดยรวม และนักดำน้ำที่มาร่วมกิจกรรมที่ความลึกการลอยตัวไม่เกิน 1.5 เมตร ขณะเดียวกัน มีการกำหนดอัตราส่วนนักดำน้ำที่เป็น Rescue 1:10 ก็สามารถควบคุมกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดได้
นายปรารพ กล่าวต่อไปถึงการดูแลความปลอดภัยของนักดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการ ว่า จะมีทุ่นลอย 3 จุดด้วยกัน มีทุ่นเป็นโป๊ะลอยน้ำและทิ้งเชือกสีเขียวห่างออกมา 200 เมตร และระหว่างทุ่นจะมีทุ่นสีเหลืองลอยไว้เป็นทุ่นพยุงตัวนักดำน้ำ หากนักดำน้ำหมดแรงก็สามารถใช้เชือกเข้าถึงโป๊ะได้และจะมีเรือแคนู ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวเข้าช่วยเหลือนักดำน้ำได้อย่างทันท่วงที
ขณะ นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต กล่าวว่า พื้นที่ที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรมดำน้ำจะมีน้ำใสมาก ใสจนเห็นแนวปะการัง เห็นทัศนียภาพใต้น้ำ ทำให้นักดำน้ำสามารถปรับตัวได้ง่าย
สำหรับการดำน้ำเก็บขยะ นักดำน้ำที่มีประสบการณ์จะรู้วิธีเก็บ เช่น เศษอวน ไม่ใช่เห็นเศษอวนคลุมปะการังแล้วจะเก็บได้เลย ทุกคนจะรู้ว่าถ้าดึงออกมาจะทำให้ปะการังเสียหาย จะไม่มีการดึง ถ้าปะการังสามารถโผล่ผ่านอวนได้ก็จะไม่มีดึงเศษอวน ซึ่งเป็นจิตสำนึกของนักดำน้ำส่วนใหญ่คนที่มาร่วมกิจกรรมจะเข้ากระบวนการดำน้ำเก็บขยะมาแล้ว ยิ่งเมื่อเราจัดระบบ การกำกับการดำน้ำเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการัง
นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเล (อันดามันตอนบน) จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ ที่บริเวณหาดท้ายเหมือง จ.พังงา โดยเชิญชวนนักดำน้ำจำนวน 3,000 คน ร่วมทำกิจกรรม ว่า สำหรับการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะที่บริเวณแนวปะการังหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 3 เม.ย.53
ขณะนี้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้แนวปะการังบริเวณที่จัดกิจกรรมได้รับความเสียหาย ซึ่งในการดำเนินการยืนยันได้ว่า จะไม่กระทบกับแนวปะการัง ซึ่งได้มีการกำหนดพื้นที่ในการทำกิจกรรมนั้นจะเป็นพื้นที่ทรายล้วนๆ ไม่มีปะการัง จุดดำน้ำมีขนาดยาว 225 เมตร กว้าง 100 เมตร ลึก 10 เมตร
สำหรับแนวปะการังที่บริเวณหาดท้ายเหมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรม ได้มีการสำรวจแนวปะการังทั้งหมดแล้ว 2.7 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีแนวปะการังที่สมบูรณ์มาก แต่พื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเก็บขยะ หรืออื่นๆ จะอยู่บริเวณชายขอบแนวปะการังห่างจากแนวปะการัง มากถึง 220 เมตร โดยจะมีทุ่นกำหนดขอบเขตไว้ชัดเจนและจะมีเชือกสีเหลือง สีแดง กำหนดเขตไว้ใต้น้ำ
สำหรับนักดำน้ำที่ต้องการปล่อยหอยมือเสือ หรือดำเที่ยว (Fundrive) ซึ่งใช้พื้นที่ดำน้ำใช้ไม่ถึง 10% ของพื้นที่โดยรวม และนักดำน้ำที่มาร่วมกิจกรรมที่ความลึกการลอยตัวไม่เกิน 1.5 เมตร ขณะเดียวกัน มีการกำหนดอัตราส่วนนักดำน้ำที่เป็น Rescue 1:10 ก็สามารถควบคุมกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดได้
นายปรารพ กล่าวต่อไปถึงการดูแลความปลอดภัยของนักดำน้ำที่เข้าร่วมโครงการ ว่า จะมีทุ่นลอย 3 จุดด้วยกัน มีทุ่นเป็นโป๊ะลอยน้ำและทิ้งเชือกสีเขียวห่างออกมา 200 เมตร และระหว่างทุ่นจะมีทุ่นสีเหลืองลอยไว้เป็นทุ่นพยุงตัวนักดำน้ำ หากนักดำน้ำหมดแรงก็สามารถใช้เชือกเข้าถึงโป๊ะได้และจะมีเรือแคนู ซึ่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวเข้าช่วยเหลือนักดำน้ำได้อย่างทันท่วงที
ขณะ นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต กล่าวว่า พื้นที่ที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรมดำน้ำจะมีน้ำใสมาก ใสจนเห็นแนวปะการัง เห็นทัศนียภาพใต้น้ำ ทำให้นักดำน้ำสามารถปรับตัวได้ง่าย
สำหรับการดำน้ำเก็บขยะ นักดำน้ำที่มีประสบการณ์จะรู้วิธีเก็บ เช่น เศษอวน ไม่ใช่เห็นเศษอวนคลุมปะการังแล้วจะเก็บได้เลย ทุกคนจะรู้ว่าถ้าดึงออกมาจะทำให้ปะการังเสียหาย จะไม่มีการดึง ถ้าปะการังสามารถโผล่ผ่านอวนได้ก็จะไม่มีดึงเศษอวน ซึ่งเป็นจิตสำนึกของนักดำน้ำส่วนใหญ่คนที่มาร่วมกิจกรรมจะเข้ากระบวนการดำน้ำเก็บขยะมาแล้ว ยิ่งเมื่อเราจัดระบบ การกำกับการดำน้ำเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการัง
