xs
xsm
sm
md
lg

“7 พยัคฆ์แดนใต้” ถูกรวบตัวแล้วพร้อมของกลางเพียบ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ภาค 9 และกองบังคับการตำรวจภูธร 3 จังหวัด ระดมกำลังจับกุม 2 ผู้ต้องหาคดีเรียกค่าคุ้มครองชื่อดัง ที่กำลังออกอาละวาดในพื้นที่ภาคใต้

วันนี้ (25 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 รวมประมาณ 150 นาย นำโดย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง สนธิกำลังร่วมกับ 3 กองบังคับการตำรวจภูธร คือ นครศรีธรรมราช พัทลุงและตรัง ตลอดจนสถานีตำรวจภูธรต่างๆ ในพื้นที่รอยต่อ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 42 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสุนัขสงคราม ได้เดินทางเข้าไปติดตามจับกุมกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครอง ในนามทีมงาน 7 พยัคฆ์แดนใต้ ซึ่งกำลังออกอาละวาดเรียกค่าคุ้มครองชาวสวนยางพารา รวมทั้งผู้ที่มีฐานะดีในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้

จอมโจรกลุ่มนี้มีประมาณ 4-5 คน นำโดย “ขุนโมทย์” หรือ นายปราโมทย์ ทองจันทร์ หรือ นายเอส อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง อดีตสมุนของจอมโจรชื่อดัง “ไข่หมูก” หรือ นายเจิม เส้งเอียด ทั้งนี้ ขุนโมทย์ ถือเป็นผู้ต้องหาหมายเลข 1 ตามบัญชีดำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่มีประวัติก่อคดีอุกฉกรรจ์มาอย่างโชกโชน และมีหมายจับทั้งหมด 8 คดี รวมทั้งคดีเรียกค่าคุ้มครองอีกหลายรายในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการประกาศตั้งค่าหัวนำจับ ขุนโมทย์ ไว้ 150,000 บาท

ทั้งนี้ กำลังชุดดังกล่าวได้บุกเข้าไปจับกุมตัว นายขจรศักดิ์ ทองจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพี่ชายของ ขุนโมทย์ ขณะกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในขนำแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านห้วยอำพันเหนือ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แล้วนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุงทันที ต่อจากนั้น กำลังชุดเดียวกันได้บุกเข้าไปจัมกุมตัว นายอดิเรก มีจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครอง ขณะกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักของตัวเอง

ทั้งนี้ ได้มีการตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้น ชนิดรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิท ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนที่บรรจุอยู่ในรังเพลิง 6 นัด และกระสุนปืนที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าเก็บกระสุนปืน อีก 16 นัด รวมจำนวน 22 นัด แล้วนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ สภ.สิเกา จ.ตรัง โดยแจ้งข้อกล่าว ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

ในเบื้องต้น นายอดิเรก ผู้ต้องหารายนี้ ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รวมทั้งคดีเรียกค่าคุ้มครองร่วมกับ ขุนโมทย์ ที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ โดยเฉพาะ นายอดิเรกนั้น เคยรับการว่าจ้างให้รับงานฆ่า ด.ต.จำรัส จันทร์เศษ อายุ 54 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับหมู่งานสื่อสาร สังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง จนเสียชีวิตที่บริเวณเพิงหน้าร้านน้ำชา เลขที่ 140 หมู่ที่ 2 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง

จากการสืบสวนสอบสวน ระบุว่า นายอดิเรก ได้ใช้อาวุธปืนคู่ใจ ขนาด .38 เดินเข้าไปจ่อยิง ด.ต.จำรัส เข้าที่บริเวณศีรษะและท้ายทอย จุดละ 1 นัด และที่บริเวณลำตัวอีก 2 นัด รวมจำนวน 4 นัด ก่อนที่จะวิ่งไปซ้อนรถจักรยานยนต์ ที่เพื่อนคนร้ายอีก 1 คน กำลังติดเครื่องรออยู่ แล้วหลบหนีไป





กำลังโหลดความคิดเห็น