ตรัง - ชาวบ้าน 3 จังหวัดภาคใต้ ทั้ง ตรัง พัทลุง และนครศรีธรรมราช เดือดร้อน หลังกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครอง 7 พยัคฆ์แดนใต้ ออกอาละวาดหนัก ด้านตำรวจระบุกำลังเร่งล่าตัวอย่างเต็มที่แล้ว
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา พ.ต.ท.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.ห้วยยอด และ พ.ต.ท.วันชัย ปะลาวัน สารวัตรใหญ่ สภ.กะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบเหยื่อเรียกค่าคุ้มครอง จำนวน 10 ราย ในพื้นที่ตำบลน้ำตก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีบ้านอยู่ติดเขตรอยต่อกับตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
โดยก่อนหน้านี้ ได้ถูกกลุ่มโจรเรียกค่าคุ้มครองที่ใช้ชื่อว่า ทีมงาน 7 พยัคฆ์แดนใต้ ซึ่งเป็นสมุนเก่าของ นายเจิม เส้งเอียด หรือ ไข่หมูก จอมโจรชื่อดัง ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง หลังจากที่กลุ่มโจรดังกล่าวได้เข้ามาก่อเหตุอาละวาดยิงข่มขู่ และทิ้งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองชาวสวนยางพารา รวมทั้งผู้ที่มีฐานะดี ในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง จนทำให้ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และไม่กล้าออกไปกรีดยางพาราหลายร้อยครัวเรือน
นอกจากนั้น ก็ยังมี นายคเณศ หนูอินทร์แก้ว และ นายสัมพันธ์ หนูอินทร์แก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำตก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับกลุ่มชาวบ้าน นัดกันมารวมตัวกันที่บ้านของ นายยุวรา และ นางวรรณวิมล หมุนกลับ อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ที่ 1 (ตลาดคลองมวน) ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง 2 สามีภรรยา เหยื่อที่ถูกเรียกค่าคุ้มครอง จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากกำลังมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา พ.ต.ท.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.ห้วยยอด และ พ.ต.ท.วันชัย ปะลาวัน สารวัตรใหญ่ สภ.กะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงถึงการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 จังหวัด และภาค 8-9 เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ และคลายความหวาดกลัวว่าพร้อมดูแลและรับฟังปัญหา โดยไม่ได้แยกว่าใครอยู่ในจังหวัดใด
เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบกลุ่มโจรที่ชัดเจนแล้ว และอยู่ระหว่างการกดดันไล่ล่าติดตามอย่างเต็มที่ ซึ่งทุกฝ่ายมีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ ต้องการขจัดโจรชั่วแบบถอนรากถอนโคน และนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่พี่น้องประชาชน พร้อมขอให้มั่นใจว่าจะทำงานสุดความสามารถ และเชื่อว่าอาจจะมีข่าวดีในไม่ช้านี้
นายวิเชียร สังฆพันธ์ ข้าราชการบำนาญ หนึ่งในเหยื่อเรียกค่าคุ้มครองชาวตำบลน้ำตก เล่าว่า จดหมายเรียกค่าคุ้มครองที่ทุกคนได้รับเป็นฉบับเดียวกัน และร่ายชื่อยาวเป็นบัญชีหางว่าว แต่เป็นที่สังเกตว่า มีอยู่ 3-4 ราย ที่กลุ่มโจรนำชื่อเล่นของเหยื่อ มาใส่ลงไปพร้อมกับนามสกุลจริง และเลือกที่จะลงมือในช่วงเวลากลางคืน เพราะปลอดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกลุ่มโจรจะทราบดีว่า สวนยางพารานั้นๆ เป็นสวนใคร จึงสามารถนำจดหมายไปวางไว้ตรงตามรายชื่อเหยื่อ
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีคนในพื้นที่ประมาณ 80% ช่วยทำหน้าที่ชี้เป้าให้แก่กลุ่มโจร จึงยิ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดผวาอย่างหนัก จนไม่กล้าออกไปกรีดยางพาราในช่วงกลางคืนตามปกติ ส่วนบางรายก็ต้องไปจ้างคนมาคุ้มกันเวลาออกไปกรีดยางพารา