ระนองจับขบวนการลอบขนแรงงานเถื่อน

ระนอง-ทหาร ฉก.ร.25 จ.ระนอง จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนได้คนขับ 2 คน พร้อมแรงงานชาวพม่า 31 คน รถกระบะ 2 คัน

เมื่อเวลา 13.30 น วันนี้ (28 ก.พ.53) พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25(ผบ.ฉก.ร.25) กองกำลังเทพสตรี สั่งการให้ ร.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผบ.ร้อย ร. 2521 นำกำลังทหารพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองระนอง เข้าสกัดจับรถขนแรงงานเถื่อนบนถนนสายบ้านหาดส้มแป้น-บ้านทุ่งคา หมู่ที่ 1 ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง

โดยสามารถสกัดจับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าขับเคลื่อน 4 ล้อ จำนวน 2 คันที่กำลังขับตามกัน บริเวณทางแยกเข้าหน่วยตรวจอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว บ้านทุ่งคา โดยที่กระบะหลังและในเก๋งมีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าพร้อมกระเป๋าสัมภาระเต็มนั่งอัดแน่นกันทั้ง 2 คัน คันที่ 1 หมายเลขทะเบียน ชภ 6533 กรุงเทพมหานคร รุ่นไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู มีหลังคา มีนายสุรศักดิ์ จรรยา อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 8/69 หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง บรรทุกแรงงานชาวพม่า 20 คน

คันที่ 2 หมายเลขทะเบียน ปท 1607 กรุงเทพมหานคร รุ่นไทเกอร์ ตอนครึ่ง มีนายอัฐนิรัตน์ ศรีคง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง บรรทุกแรงงานชาวพม่า จำนวน 11 คน รวม 31 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 16 คน และเด็กชาย 1 คน จึงควบคุมตัวไปที่ร้อย ร.2521 วัดมัชฌิมเจริญธรรม(วัดป่าช้า) หมู่ 1 ต.บางริ้น อ.เมือง โดยมี พ.อ.นพวงศ์ สุรวิชัย รอง ผบ.กองกำลังเทพสตรี ร่วมตรวจสอบด้วย

จากการสอบสวนนายอัฐนิรัตน์ และนายสุรศักดิ์ ให้การว่ารับแรงงานต่างด้าวมาจากย่านปากน้ำระนอง โยใช้เส้นทางบ้านหาดส้มแป้น-บ้านทุ่งคา ไปสิ้นสุดที่ ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นถนนลูกรังต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นในการลำเลียงเนื่องจากต้องขึ้นเขาลงห้วย ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับกุมของทหาร โดยตนจะไปส่งที่ริมป่าของเขต อ.พะโต๊ะ จากนั้นจะมีรถมารับไปส่งต่อตามปลายทางอีกทอดหนึ่ง ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 2,000-3,000 บาท สัปดาห์นี้ขนมาแล้ว 3 เที่ยว

นายไน อายุ 21 ปี แรงงานชาวพม่า ให้การว่า ปกติตนเองทำงานอยู่ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง จ.ภูเก็ต ทำมา 4 ปีแล้ว ได้ค่าจ้างเดือนละ 6,500 บาท กลับจากเดินทางไปเยี่ยมบ้านที่ จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ส่วนค่าเดินทางนั้นนายจ้างจะเป็นคนจ่ายให้กับนายหน้าโดยตรงไปก่อน ตนไม่ทราบว่าเท่าไหร่ แต่ทราบว่าจ่ายไปแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายเมื่อกลับถึงที่ทำงาน จากนั้นนายจ้างจะหักจากค่าแรงอีกทีหนึ่ง

เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่นายอัฐนิรัตน์ และนายสุรศักดิ์ ให้การช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้รอดพ้นจากการจับกุม ส่วนแรงงานต่างด้าวมีความผิดในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย