พัทลุง – เกษตรกรชาวสวนมีเฮ เมื่อ สกย.พัทลุงออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ราคายางในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 200,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศจีน
นายทรงธรรม จั่นทรา ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพัทลุง (สกย.) เปิดเผยว่า ภาวะยางพาราในปี 2553 ยอดขยายตัวเติบโตขึ้นกว่าปี 2552 อย่างเลี่ยงไม่พ้น เนื่องจากขณะนี้ตลาดโลกมีความต้องการยางะพาราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดออร์เดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากจากประเทศจีนที่กำลังขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และตลาดโลก ซึ่งนับได้ว่าเศรษฐกิจกำลังเชิดหัวขึ้น
โดยราคาเอฟโอบี ขณะนี้กว่า 100 บาท / กก.ประการสำคัญอีกปัจจัยที่ยางพาราขยับตังสูงขึ้น เพราะมีการกวาดซื้อเข้าสู่สต็อกกันมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลยางพาราผลัดใบ โดยชุมพร สุราษฎร์ธานี ผลัดใบแล้ว และที่ทางภาคใต้ตอนล่างในกลางเดือนมีนาคมนี้ ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลผลัดใบเช่นกัน
นายทรงธรรม ยังกล่าวอีกว่า สำหรับราคายางพาราจะยังอยู่ในราคาที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนเมษายนนี้ โดยในปีนี้รายได้จากยางพาราจะดีกว่าปี 2552 กว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยยังสามารถขยายตัวพื้นที่ปลูกเพิ่มเติมได้ในขณะนี้
นายทรงธรรม จั่นทรา ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดพัทลุง (สกย.) เปิดเผยว่า ภาวะยางพาราในปี 2553 ยอดขยายตัวเติบโตขึ้นกว่าปี 2552 อย่างเลี่ยงไม่พ้น เนื่องจากขณะนี้ตลาดโลกมีความต้องการยางะพาราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดออร์เดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากจากประเทศจีนที่กำลังขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และตลาดโลก ซึ่งนับได้ว่าเศรษฐกิจกำลังเชิดหัวขึ้น
โดยราคาเอฟโอบี ขณะนี้กว่า 100 บาท / กก.ประการสำคัญอีกปัจจัยที่ยางพาราขยับตังสูงขึ้น เพราะมีการกวาดซื้อเข้าสู่สต็อกกันมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลยางพาราผลัดใบ โดยชุมพร สุราษฎร์ธานี ผลัดใบแล้ว และที่ทางภาคใต้ตอนล่างในกลางเดือนมีนาคมนี้ ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลผลัดใบเช่นกัน
นายทรงธรรม ยังกล่าวอีกว่า สำหรับราคายางพาราจะยังอยู่ในราคาที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนเมษายนนี้ โดยในปีนี้รายได้จากยางพาราจะดีกว่าปี 2552 กว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยยังสามารถขยายตัวพื้นที่ปลูกเพิ่มเติมได้ในขณะนี้