นครศรีธรรมราช - ครู-นร.ร.ร.ท่านครญาณวโรภาสอุทิศเมืองนครศรีฯ นัดแต่งชุดดำ ประท้วงคุณโจรบุกโจรกรรมคอมพิวเตอร์-เครื่องเรียนซ้ำซาก ด้านนร.เผาพริกเผาเกลือแช่ง-เด็กเดินชูป้ายร้อง รอง ผบก.เร่งสางคดี -ประธานนักเรียนลั่นหากไม่คืบหน้าเตรียมยกขบวนนักเรียนไปประท้วงถึงหน้า สภ.เมืองนครศรีฯ
วันนี้ (18 ก.พ.53) ที่โรงเรียนท่านครญาณวโรภาสอุทิศ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมชั้นนำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ที่ ม.2 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีกิจกรรมหน้าเสาธงหลังจากการเคารพธงชาติระหว่างครูทุกคนในโรงเรียนได้นัดกันแต่งชุดดำประท้วงคนร้ายที่เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการภายในโรงเรียน โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา
ส่วนนักเรียนจำนวน 1,200 คน จากทุกระดับชั้นตั้งแต่ ม.1-ม.6 ได้ร่วมกันติดผ้าแถบสีดำบริเวณหน้าอกเพื่อร่วมกันประท้วงคนร้ายและการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างพร้อมเพรียง และนักเรียนแต่ละคนได้ร่วมกันเขียนแผ่นป้ายผ้าพื้นสีขาวตัวหนังสือสีดำ และแผ่นกระดาษ ในข้อความต่างๆจำนวนมาก เช่น “กี่ครั้งกี่หนคุณโจรก็ลอยนวล” “ป้อมตำรวจอยู่ข้างโรงเรียนคุณโจรเวียนไปทางไหน” “ไอ้คุณโจรแน่จริงไปลักบ้าน ผกก.” และอีกหลายข้อความที่เมื่ออ่านแล้วต้องอมยิ้ม ในความคมคายของบรรดานักเรียนที่ไปออกแบบข้อความมาอย่างหลากหลายและล้วนเสียดแทงผู้ที่มีหน้าที่
หลังจากกิจกรรมหน้าเสาธงนักเรียน ซึ่งนำโดย น.ส.ชนิดา ลิ้นบาง นักเรียนชั้น ม.5 ในฐานะประธานนักเรียน ได้อ่านแถลงการณ์ประกาศเรื่อง การโจรกรรมทรัพย์สินของโรงเรียน โดยกล่าวถึงที่มาของโรงเรียนที่เกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือของชาวบ้าน นำโดยพระครูญาณวโรภาส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่านคร และพระอธิการเข็ม ญติธรรมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ พร้อมทั้งระบุถึง การเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินของคนร้ายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องถึง 8 ครั้ง โดยเฉพาะปี 2551-2553 มีความเสียหายสูงมาก ทั้งการโจรกรรมลักตัดสายฟ้า เครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.53 ทั้งจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประมวล หลายรายการมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนบาท
ในการอ่านแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า การสูญหายแต่ละครั้งทำให้นักเรียนสูญเสียโอกาสในการเรียน เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านั้นคือสื่อการเรียนการสอน ถ้าหากยังมีการโจรกรรมเรื่อยไปแบบนี้และไม่มีที่สิ้นสุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ คงไม่มีคอมพิวเตอร์เหลือให้นักเรียนได้เรียนกันอีกต่อไป และในการก่อเหตุของคนร้ายแต่ละครั้ง โรงเรียนได้ดำเนินการทางกฎหมายโดยการแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยไม่มีอะไรคืบหน้าจึงต้องขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายให้การช่วยเหลือพวกเราด้วย ทั้งยังสาบแช่งขอให้โจรจงประสบแต่ความทุกข์ความเดือดร้อน และภัยพิบัตินานาประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ได้มีการจัดขบวนนักเรียนเดินชูแผ่นป้ายไปยังชุมชนรายรอบโรงเรียนท่ามกลางความสนใจของประชาชนในย่านดังกล่าว โดยมีการทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณหน้าตู้ยามสายตรวจปากนคร ซึ่งอยู่บริเวณมุมรั้วด้านหน้าโรงเรียน ก่อนที่จะวนกลับเข้ามายังโรงเรียน และประกาศความร่วมมือกันปกป้องทรัพย์สินของโรงเรียนให้ถึงที่สุด
ในขณะเดียวกัน พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ ผ่องโชค รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ที่เพิ่งรายตัวรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์เดินทางมาดูเหตุการณ์ด้วยตนเองพร้อมทั้งมีการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมาพูดคุยกับ พ.ต.ท.นันต์รัตน์ สังข์ยิ้ม สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่รับผิดชอบพื้นที่ และ ด.ต.สายันห์ ทองเกตุ หัวหน้าสายตรวจปากนคร ที่ตู้ยามในขณะที่ขบวนนักเรียนเดินผ่าน โดยมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
สำหรับห้องคอมพิวเตอร์ที่คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุครั้งล่าสุด พบว่าเป็นห้องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย โดยภายในนั้นมีการจัดวางอย่างดีมีเคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมทิ้งไว้ 4 เครื่อง โดยภายในนั้นคนร้ายได้ถอดเอาอุปกรณ์สำคัญโดยเฉพาะระบบประมวลทั้งหมดออกไปทั้งฮาร์ดดิสท์ แรม และอุปกรณ์อื่นจนหมด จอแอลซีดี 4 เครื่อง ประตูด้านหน้าซึ่งเป็นอลูมิเนียมถูกฉีกออกและมีร่องรอยของการซ่อมแซมใหม่แล้ว
น.ส.ชนิดา ลิ้นบาง ประธานนักเรียน เปิดเผยว่าการโจรกรรมที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทุกครั้งไม่มีความคืบหน้าแจ้งให้กับโรงเรียนเลยแม้กระทั่งสายไปไม่มีความคืบหน้า อยากขอร้องให้ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดูแลโรงเรียนให้มากกว่านี้
ขณะที่ น.ส.สุจิวรรณ พวงพริก อดีตประธานนักเรียนกล่าวเสริมว่าคนร้ายก่อเหตุหลายครั้งตลอด 5 ปี ที่ผ่านมาคนร้ายก่อเหตุหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างว่าคนร้ายก่อเหตุได้อะไรไปบ้าง แต่ไม่เข้าใจว่าตำรวจหรือผู้ใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจโรงเรียนของพวกเขาเลย พวกนักเรียนเสียโอกาสในการเรียนมามากแล้ว ไม่อยากให้เสียโอกาสไปมากกว่านี้ อยากให้โรงเรียนและนักเรียนมีขีดความสามารถเหมือนกันโรงเรียนชื่อดังชั้นนำต่างๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช
“ไม่เข้าใจว่าตำรวจอยู่ไหนทำไมไม่มาดำเนินเรื่องให้เสียที ที่ชุมชนรู้นั้นหมายความว่าหากคนร้ายอยู่ที่อื่นต้องผ่านชุมชน และรู้ได้อย่างไรว่าห้องอยู่ไหนมีคอมพิวเตอร์ใหม่ ชุมชนย่อมรักชุมชฃนแต่ไม่เห็นใจอนาคตของนักเรียน สงสัยว่าโจรพวกนี้คงจะหาเงินพาแฟนไปเที่ยวมาก่อเหตุวันที่ 13 ก.พ.รุ่งเช้าเป็นวันที่ 14 ก.พ.วันวาเลนไทน์ หรืออาจจะหาเงินซื้อดอกไม้ให้แฟน อย่างไรก็ตามหากการประท้วงของนักเรียนครั้งนี้ยังไม่มีความคืบหน้าครั้งต่อไปนั้นอาจจะไปประท้วงให้ถึงหน้าสถานีตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก็ได้” น.ส.สุจิวรณกล่าว
ด้านพ.ต.อ.เสริมศักดิ์ ผ่องโชค รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้ามาในโรงเรียน ก่อนที่จะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มาดูพื้นที่ในฐานะรอง ผบก.ที่เพิ่งมารับงาน ซึ่งมาดูกระบวนการขั้นตอนของตำรวจว่าเป็นอย่างไร ทราบว่าขณะนี้มีการติดตามอย่างเร่งด่วนมีการติดตามกลุ่มเป้าหมายมาตรวจสอบลายนิ้วมือ ซึ่งตำรวจก็ถูกต่อว่าไปเอาลูกเขามาพิมพ์ลายนิ้วมือได้อย่างไร เอาอะไรไปสงสัย
ส่วนการสืบสวน ได้ติดตามทุกแหล่งโดยเฉพาะแหล่งรับซื้อและร้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ อย่างเร่งด่วน ซึ่งหากมีของพวกนี้เข้าไปนั้นต้องเร่งแจ้งเจ้าหน้าที่หรือว่าจดข้อมูลบุคคลไว้แล้ว
