xs
xsm
sm
md
lg

10 ประเทศร่วมบุญแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงพุทธสู่เมืองแห่งตำนาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช – เทศบาลนครนครศรีฯ ผนึกกำลังหลายฝ่าย จัดงานประเพณีมาฆะบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ระหว่างวันที่ 25 – 28 ก.พ. ในบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

นายสมนึก เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับหลายฝ่ายในการจัดงานประเพณีมาฆะบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ซึ่งเป็นปีที่ถือว่าพิเศษกว่าทุกปีเนื่องจากมีการเชิญนานาประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

สำหรับประเพณีนี้ชาวนครศรีธรรมราชได้อนุรักษ์และปฏิบัติสืบเนื่องม่าโดยไม่ได้ขาดเป็นเวลากว่า 780 ปีมาแล้ว ซึ่งได้ดำเนินอยู่ด้วยพลังแห่งความเชื่อและศรัทธาในพุทธานุภาพ โดยในปีนี้ได้มีการสร้างบรรยากาศเครื่องบูชาพระพุทธเจ้าของพุทธศาสนิกชนชาวโลกกับผ้าพระบฎ ภายในงานแห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติ ที่เมืองนคร ระหว่างวันที่ 25 – 28 ก.พ. 2553 กุมภาพันธ์ 2553 ในบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

นายสมนึก เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า การเชิญนานาประเทศเข้าร่วมงานนั้นถือเป็นอีกโอกาสหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงพุทธภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อโน้มนำการปฏิบัติบูชา ตามคำสอนสำคัญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือโอวาทปาฏิโมกข์แห่งมาฆะมาส ละชั่วใฝ่ดี และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเมือง 12 นักษัตร

กิจกรรมหลักคือจัดให้มีการสมโภชผ้าพระบฎนานาชาติและทุกภูมิภาค ณ สวนศรีธรรมาโศกราช ในระหว่างวันที่ 25 – 27 ก.พ. และมีขบวนแห่ผ้าพระบฎนานาชาติ วันที่ 28 ก.พ. พร้อมกิจกรรมสวดด้าน เจริญจิตภาวนาบูชาพระธาตุ ซึ่งประเทศที่เดินทางมาร่วมงาน ประกอบด้วยประเทศศรีลังกา เนปาล บังกลาเทศ จีน เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว ญี่ปุ่น และจากรัฐเคดาห์และปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับนครศรีธรรมราชได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเรื่องของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

ส่วนความเป็นมาในประเพณีที่สำคัญเช่นนี้มีตำนานกล่าวว่า ในยุคสมัยที่พญาทั้งสามพี่น้องคือ พญาศรีธรรมาโศกราช พญาจันทรภาณุ และพญาพงหสุระ ปกครองเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนวันพิธีสมโภชองค์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชตามโบราณราชประเพณีนั้น คลื่นทะเลได้ซัดเอาผ้าแดงผืนหนึ่ง มีลายเขียนเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติที่เรียกว่า พระบฎ ขึ้นที่หาดปากพนัง ชาวปากพนังได้นำขึ้นถวายพญาศรีธรรมาโศกราชเจ้าเมือง เมื่อได้รับพระบฎ พญาศรีธรรมาโศกราชโปรดให้สอบสวนได้ความว่า พระบฎดังกล่าวนั้นเดินทางมาจากเมืองอินทรปัตย์ในเขมร ชาวเมืองจะนำไปบูชาพระเขี้ยวแก้วในศรีลังกา หากแต่พายุวัดเรือจนเรือจมลม ชาวเมืองอินทรปัตย์เหลือรอดชีวิตอยู่เพียงเล็กน้อย และได้พร้อมใจกันถวายผ้าพระบฎนั้นแก่พญาศรีธรรมาโศกราช

พญาศรีธรรมาโศกราชพิจารณาเห็นว่าพระบฎผืนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะแม้จะลอยมาในน้ำและผ่านการซักล้างมาแล้ว ลวดลายในผืนผ้าก็มิได้ลบเลือนกลับชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าเก่า จึงโปรดให้แห่แหนพระบฎนั้นขึ้นห่มเจดีย์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช จนเกิดเป็นประเพณีประจำปีของเจ้าเมืองนครมาตลอดทุกยุคทุกสมัย
กำลังโหลดความคิดเห็น