ระนอง - จังหวัดระนอง ประกาศภัยแล้งทั้ง 5 อำเภอ ผู้ว่าฯระนองสั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า แม้จังหวัดระนอง จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ แต่ในความเป็นจริงฝนได้ทิ้งช่วงมาตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ส่งผลให้หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว โดยอำเภอเมืองระนองได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งเป็นอำเภอแรก
จากนั้นอำเภออื่น ๆ ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งจนครบทุกอำเภอของจังหวัดระนองแล้ว รวม 5 อำเภอ แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการและประสานให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนเฉพาะกิจการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดระนอง ประจำปี 2553
โดยเบื้องต้นให้สร้างฝายชะลอการไหลของน้ำ ตามลำคลอง ลำห้วย บ่อน้ำตื้นต่าง ๆ และให้จัดทำแผนแจกจ่ายน้ำแก่ราษฎรในพื้นที่ที่เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง โดยประสานกำลังทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมสำรองน้ำ การใช้น้ำอย่างประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย.
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า คาดว่าปีนี้ความแห้งแล้งจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากจังหวัดระนอง มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ลาดชัน สภาพดินเป็นดินร่วนปนทรายอุ้มน้ำได้น้อย ประกอบกับเมื่อฝนทิ้งช่วงในฤดูแล้ง แม่น้ำ ห้วยหนอง คลอง บึง จะแห้งขอดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความแห้งแล้งเป็นเวลานาน ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรได้ง่าย
ในเบื้องต้นให้ท้องถิ่นช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปก่อน หากเกินความสามารถก็ให้นายอำเภอเข้าไปสนับสนุนงบประมาณสำรองจ่าย 5 แสนบาท แต่ถ้าความรุนแรงของปัญหาเกินกว่าทางอำเภอจะรับมือได้ ทางจังหวัดก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีงบฉุกเฉินที่สามารถนำมาใช้ได้ 50 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าจังหวัดสามารถรับมือกับปัญหาได้
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า แม้จังหวัดระนอง จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ แต่ในความเป็นจริงฝนได้ทิ้งช่วงมาตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ส่งผลให้หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว โดยอำเภอเมืองระนองได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งเป็นอำเภอแรก
จากนั้นอำเภออื่น ๆ ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งจนครบทุกอำเภอของจังหวัดระนองแล้ว รวม 5 อำเภอ แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการและประสานให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนเฉพาะกิจการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดระนอง ประจำปี 2553
โดยเบื้องต้นให้สร้างฝายชะลอการไหลของน้ำ ตามลำคลอง ลำห้วย บ่อน้ำตื้นต่าง ๆ และให้จัดทำแผนแจกจ่ายน้ำแก่ราษฎรในพื้นที่ที่เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง โดยประสานกำลังทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมสำรองน้ำ การใช้น้ำอย่างประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย.
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า คาดว่าปีนี้ความแห้งแล้งจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากจังหวัดระนอง มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ลาดชัน สภาพดินเป็นดินร่วนปนทรายอุ้มน้ำได้น้อย ประกอบกับเมื่อฝนทิ้งช่วงในฤดูแล้ง แม่น้ำ ห้วยหนอง คลอง บึง จะแห้งขอดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความแห้งแล้งเป็นเวลานาน ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรได้ง่าย
ในเบื้องต้นให้ท้องถิ่นช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปก่อน หากเกินความสามารถก็ให้นายอำเภอเข้าไปสนับสนุนงบประมาณสำรองจ่าย 5 แสนบาท แต่ถ้าความรุนแรงของปัญหาเกินกว่าทางอำเภอจะรับมือได้ ทางจังหวัดก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีงบฉุกเฉินที่สามารถนำมาใช้ได้ 50 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าจังหวัดสามารถรับมือกับปัญหาได้