xs
xsm
sm
md
lg

ชาวประมงปัตตานีขายเรือทิ้งกว่า 500 ลำหลังขาดทุนอย่างหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี – ชาวประมงปัตตานี ประกาศขายเรือประมงในพื้นที่ กว่า 500 ลำ บางส่วนปล่อยทิ้งและปล่อยให้เรือจมน้ำตลอดแนวชายฝั่งและในแม่น้ำปัตตานี หลังได้รับผลกระทบขาดทุนอย่างหนัก

สภาพคล่องของผู้ประกอบการเรือประมงในพื้นที่ จ.ปัตตานี กว่า 3,000 ลำ กำลังได้รับผลกระทบเดือดร้อนหนัก และต้องบอกขายเรือแบบถูกๆ ตั้งแต่กลางปี 52 ถึงปัจจุบันแล้วกว่า 500 ลำ หรือบางรายยอมปล่อยทิ้งและทำให้จมอยู่ตลอดตามแนวแม่น้ำปัตตานี รวมทั้งแนวชายฝั่ง ซึ่งนับตั้งแต่ราคาน้ำมันปรับราคาสูงขึ้นและปลาในฝั่งอ่าวไทยลดน้อยลง จนไม่สามารถแบกรับภาระขาดทุนจากราคาต้นทุนที่สูงอยู่ในแต่ละเที่ยวมากกว่า 4 แสนบาท โดยส่วนใหญ่หันไปจับปลานอกน่านน้ำต่างประเทศทั้งที่ประเทศมาเลยเชีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม แต่ต้องจ่ายค่าทำตั๋วจากไม่กี่แสนกลายเป็น 1 - 2 ล้านบาท/ต่อปี

นอกจากนี้ยังต้องคอยจ่ายค่ารายทางให้กับ เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทยและต่างประเทศที่เข้าไปจับปลาในแต่ละเดือนตั้งแต่ 5 หมื่น – 2 แสนบาท อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาใหม่และกำลังหนักขึ้น โดยที่รัฐบาลและระดับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ ที่ไม่เคยลงมาดูแล และกำลังสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการเรือประมงเป็นอย่างมาก คือ ปล่อยให้มีกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งเขมร ลาว ยวน ที่มาขายแรงงานทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ตั้งกลุ่มเพื่อคอยต่อรองค่าหัวคิวในรายหัวละ 7,000 – 10,000 บาท/คน ทำงานได้ 1 – 2 เที่ยวก็จะหนีไปอยู่ลำอื่นและจะทำเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดกล้าที่จะลงไปดูแล หรือหามาตรการลงโทษ เพื่อให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวเข็ดหลาบ

นายสุนันท์ พีรสุนันท์ เจ้าของเรือประมง (กำลังบอกขายเรือ 3 ลำ จาก 5 ลำ) กล่าวว่าการตัดสินใจขายเรือ เนื่องจากการทำประมงในทุกวันนี้มีปัญหามาก ทั้งเรื่องเชื้อเพลิงแพง และปัญหาหนัก คือ แรงงานต่างด้าวที่ต้องหาซื้อมาเพื่อให้ทำงาน ซึ่งจากปัญหาที่ถูกหลอกนี้
 
โดยแบ่งเป็นพม่ากลุ่มหนึ่ง เขมรกลุ่มหนึ่ง เช่น รับมาอยู่ในเรือเสียค่าใช้จ่ายตกคนละ 7,000 – 10,000 บาท สัญญา 1 ปี ทำได้ 1 – 2 เที่ยว ก็หลบหนีไปอยู่ลำอื่นและจะเอาค่าหัวคิวแล้วก็ไปอีกและจะทำเช่นนี้ไปเลื่อยๆ โดยขณะนี้เจ้าของเรือส่วนใหญ่เริ่มทยอยขายเรือเพราะสู้ไม่ไหวกับการหาคนงาน และปลาที่กำลังหายาก ซึ่งก็อยากให้รัฐบาลช่วยเรื่องคนงาน โดยการออกระเบียบสำหรับผู้มาทำงานให้อยู่ในสัญญา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 90 % ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย

ในขณะที่การหาปลาในฝั่งอ่าวไทยก็ไม่ค่อยมีปลา จึงต้องไปจับยังประเทศมาเลย์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็เป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะค่าตั๋วจับปลาก็มีการขึ้นราคาตกลำหนึ่งต่อปี 8 หมื่น – 2 ล้านบาท และยังต้องคอยจ่ายรายเดือนอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น