ปัตตานี – ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมนายกเหล่ากาชาดเข้าเยี่ยม “น้องอับดุลซาลาม”ได้รับบาดเจ็บจากการล้มรถพร้อมกับพ่อแม่และพี่ชายที่ถูกยิงเสียชีวิตทั้งสามคาที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลปัตตานี นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายยุทธเดช อภัยวงศ์ หัวหน้าศูนย์เยียวยาจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนางชุลี ศรียะพันธ์ นายกเหล่ากาชาด จังหวัดปัตตานี ได้เข้าเยี่ยมน้องอับดุลซาลาม วามะ อายุ 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการล้มรถพร้อมกับพ่อแม่และพี่ชายที่ถูกยิงเสียชีวิตทั้งสามคาที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้น้องมีบาดแผลที่ศีรษะ ซึ่งหมอได้ทำการเย็บบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือด้านจิตใจที่น้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก
การเข้าเยี่ยมในครั้งนี้ ทางคณะได้นำตุ๊กตาแพนด้า อุตราแมน และเงินเยียวยา จำนวนหนึ่งหมื่นบาท เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับน้องอับดุลซาลาม และครอบครัว นอกจากนั้นทางจังหวัดได้สอบถามและรับทราบปัญหาผลกระทบเพื่อการให้ความช่วยเหลือกันต่อไป
ด้านนายแพทย์เอ็มนัสรี มินทราศักดิ์ จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลปัตตานี ได้เข้าพูดคุยกับครอบครัวน้องอับดุลซาลาม ซึ่งมีนางสาวนูร์อาซียัน วามะ อายุ 14ปี พี่สาว เป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่ปลอบใจน้องชายตลอดเวลา พร้อมหลั่งน้ำตา ที่ทนน้องชายถามหาแม่อยู่ตลอดเวลา
จิตแพทย์จังหวัดปัตตานีเปิดเผยว่า โดยสภาพทางจิตใจของน้องอับดุลซาลาม และครอบครัว ได้รับผลกระทบอย่างหนักมากเท่าที่ได้พบเจอ ซึ่งน้องทั้งสองอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องเข้มแข็ง ซึ่งเป็นช่วงที่หลายฝ่ายต้องช่วยให้พ้นเวลาวิกฤติ สภาพจิตใจของน้องทั้งสองอยู่ในสภาวะติดลบ จึงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรที่จะต้องมีการฟื้นฟู่สภาพจิตใจ รวมทั้งปัจจัยอื่นที่ต้องตามมา
ส่วนเรื่องโรคประจำตัว ที่น้องอับดุลซาลาม เป็นโรคไตอักเสบอยู่ด้วย บวกกับพี่ชายคนที่ 2 ป่วยมีอาการทางประสาท และพี่ชายคนโต นายแวซูเบะ อายุ 19 ปี ได้ล้มป่วย หลังจากทราบข่าวว่าพ่อแม่และน้องชายถูกยิง เสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาล จะให้การช่วยเหลือให้ครบถ้วน
ด้านนางสาวนูร์อาซียัน วามะ เปิดเผยว่าปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ปี่ที่ 2 โรงเรียนศาสนศึกษา ตั้งอยู่ ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ซึ่งช่วงที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ได้บอกกับแม่ว่าอยากเรียนให้เก่ง และอยากเป็นหมอ แม่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ บอกเพียงว่าแม่สามารถมีเงินให้ได้วันละ 40 บาท ทุกวันไปเรียนต้องเสียค่ารถ วันละ15บาท นอกจากนั้นเป็นค่าข้าว และขนม จึงย้ายไปอาศัยกับน้าสาวที่ขายไก่สดที่ตลาดสดเทศบาล ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี เพื่อใช้เวลาว่างหรือช่วงหยุดเรียนช่วยน้าสาวขายไก่เป็นรายได้เสริมเก็บไว้ เป็นค่าเล่าเรียน จนกระทั้งเกิดเหตุพ่อแม่ถูกยิงเสียชีวิต จึงสร้างความวิตก กับอนาคตของตัวเอง ถ้ามีโอกาสอยากได้ทุนการศึกษา เพื่อสามารถเรียนจนจบ ตามที่เคยพูดคุยกับแม่ และทุนการการศึกษาและดูแลให้กับน้องๆ
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.สายบุรี กล่าวว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นำหัวกระสุน และปลอกกระสุนเข้าเครื่องตรวจสอบว่า เป็นปืนกลุ่มใด ที่ก่อเหตุในพื้นที่ คาดว่าถ้าผลออกมาแล้วเราสามารถระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อสามารถที่จะออกหมายจับและติดตามการจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป
ส่วนการตายนั้นมาจากการเป็นพยานยิงผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บ้านท่าน้ำ ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ ตามที่ได้ถูกเสนอเป็นข่าวนั้น โดยความจริงแล้วตามรูปคดีน่าจะไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการให้ปากคำธรรมดาเพื่อสมบูรณ์ในชั้นการทำสำนวนสอบสวนคดี และผู้ตายได้การปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นกับการเสียชีวิตของอดีตผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างใด จึงทำให้คดีไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้ เพราะไม่ปรากฏผู้ต้องหา
ทางพนักงานสอบสวนได้มุ่งประเด็นการเมืองในท้องที่ เพราะผู้ตายเคยเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าน้ำที่ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกับลูกชาย ในระหว่างไปละหมาดบริเวณหน้ามัสยิด เมื่อปี 2552