ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – แพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ระบุหญิงท้องชาว จ.สตูล ป่วย ไม่เกี่ยวกับฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ผลการผ่าตัดทั้งแม่และลูกปลอดภัย
วันนี้ (1 ก.พ.) นายแพทย์ไพโรจน์ วราชิต รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าอาการของ นางดวงพร แสงสุวรรณ อายุ 32 ปี ชาว จ.สตูล หญิงท้องที่เกิดอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ หลังแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมอง และผ่าทารกในครรภ์ออกมาเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
ทั้งนี้ ระบุว่า อาการที่แสดงออกหลังจากที่รับมาจากโรงพยาบาลสตูล คือ คนไข้มีความดันสูง และมีอาการชักเกร็ง ซึ่งอาการดังกล่าวจะบ่งบอกอาการของโรคได้ 2 อย่าง คือ ครรภ์เป็นพิษ และความดันในสมองสูงขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบอาการของคนไข้ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ทางสมอง พบว่า มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองเป็นจำนวนมาก และเข้าได้กับอาการชักเกร็งของผู้ป่วย
คณะแพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดเพื่อทำการช่วยเหลือ ซึ่งผลการผ่าตัดพบว่าผู้ป่วยมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองเหมือนกับผลการตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์จริงๆ หลังจากทำการผ่าตัดแล้วผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยเหลือชีวิตของทารกในครรภ์ให้ปลอดภัย คณะแพทย์จึงได้ตัดสินใจผ่าเอาเด็กออก ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี ทำให้รอดทั้งแม่และลูก โดยทารกนั้นมีน้ำหนักประมาณ 1,800 กรัม จากอายุครรภ์ประมาณ 33 สัปดาห์
อาการขณะนี้หลังจากทำการผ่าตัดได้ 4 วัน อาการของมารดาดีขึ้น พูดคุยรู้เรื่องเข้าใจดี สามารถขยับแขนขาและร่างกายได้ ส่วนทารกนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดีกว่าวันแรกๆ ซึ่งทางคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็กอ่อนได้วางแผนเตรียมเอาท่อช่วยหายใจออกจากตัวของทารก แต่ขอดูผลการตรวจสอบให้แน่ใจก่อน
นายแพทย์ไพโรจน์ กล่าวว่า โดยสรุปแล้วผู้ป่วยรายนี้จากอาการที่ตรวจพบ และผ่าเจอ ก็น่าที่จะเชื่อได้ว่า เกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้มีเลือดออกในสมอง ไม่น่าที่เกี่ยวของกับเรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอน เพราะไม่เคยปรากฏว่ามีผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนแล้วมีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองมาก่อน
วันนี้ (1 ก.พ.) นายแพทย์ไพโรจน์ วราชิต รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าอาการของ นางดวงพร แสงสุวรรณ อายุ 32 ปี ชาว จ.สตูล หญิงท้องที่เกิดอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ หลังแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมอง และผ่าทารกในครรภ์ออกมาเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
ทั้งนี้ ระบุว่า อาการที่แสดงออกหลังจากที่รับมาจากโรงพยาบาลสตูล คือ คนไข้มีความดันสูง และมีอาการชักเกร็ง ซึ่งอาการดังกล่าวจะบ่งบอกอาการของโรคได้ 2 อย่าง คือ ครรภ์เป็นพิษ และความดันในสมองสูงขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบอาการของคนไข้ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ทางสมอง พบว่า มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองเป็นจำนวนมาก และเข้าได้กับอาการชักเกร็งของผู้ป่วย
คณะแพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดเพื่อทำการช่วยเหลือ ซึ่งผลการผ่าตัดพบว่าผู้ป่วยมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองเหมือนกับผลการตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์จริงๆ หลังจากทำการผ่าตัดแล้วผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยเหลือชีวิตของทารกในครรภ์ให้ปลอดภัย คณะแพทย์จึงได้ตัดสินใจผ่าเอาเด็กออก ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี ทำให้รอดทั้งแม่และลูก โดยทารกนั้นมีน้ำหนักประมาณ 1,800 กรัม จากอายุครรภ์ประมาณ 33 สัปดาห์
อาการขณะนี้หลังจากทำการผ่าตัดได้ 4 วัน อาการของมารดาดีขึ้น พูดคุยรู้เรื่องเข้าใจดี สามารถขยับแขนขาและร่างกายได้ ส่วนทารกนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดีกว่าวันแรกๆ ซึ่งทางคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็กอ่อนได้วางแผนเตรียมเอาท่อช่วยหายใจออกจากตัวของทารก แต่ขอดูผลการตรวจสอบให้แน่ใจก่อน
นายแพทย์ไพโรจน์ กล่าวว่า โดยสรุปแล้วผู้ป่วยรายนี้จากอาการที่ตรวจพบ และผ่าเจอ ก็น่าที่จะเชื่อได้ว่า เกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้มีเลือดออกในสมอง ไม่น่าที่เกี่ยวของกับเรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอน เพราะไม่เคยปรากฏว่ามีผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนแล้วมีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองมาก่อน
