xs
xsm
sm
md
lg

พ่อค้าส่งผลไม้เมืองคอนแจ้งจับหาต้นตอสวนทุเรียนนอกฤดูพ่นสารพิษอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช – ทุเรียนนอกฤดูพ่นพิษ พ่อค้าส่งกว้านซื้อผลไม้เตรียมส่งให้ร้านอาหาร ภัตตาคารในเมืองท่องเที่ยว แต่หยิบมารับประทานก่อนจนเจอเองลูก-หลานกินถึงอ๊วกปวดท้องดิ้นพราดหอบขึ้นโรงพักแจ้งความหาต้นตอเกษตรกร เผยระบบผลิตเต็มไปด้วยสารเคมีแต่ยันเก็บเกี่ยวไม่มีแฉแหล่งรับซื้อรายใหญ่ตัวดีใช้สารเคมีแช่เปลือก ป้ายขั้วทุเรียนทำสารพิษฝังในเนื้อ

วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจาก นายสิรภพ หรือยุทธ ศรีศักดิ์ อายุ 38 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายส่งผลไม้ อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 6 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยได้หอบหิ้วเอาผลทุเรียนสดหลายผลเป็นหลักฐานในการแจ้งความ โดยระบุว่าเมื่อบริโภคทุเรียนดังกล่าวเข้าไปนั้นส่งผลให้ลูกหลานและญาติถึงกับหน้ามืดวิงเวียน อาเจียน กันอย่างจ้าละหวั่นซึ่งต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายและหาแหล่งที่มา

นายสิรภพ เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองมีอาชีพค้าส่งผลไม้ โดยจะจัดซื้อและส่งต่อไปยังหลายจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดแหล่งท่องเที่ยว โดยจะรวบรวมผลไม้ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศชื่อชอบ จัดส่งขายให้กับโรงแรม ร้านอาหารในจังหวัดภูเก็ต และอื่นๆ เรื่องได้เกิดขึ้นเมื่อเย็นของวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปซื้อทุเรียนหมอนทองจากแผงค้าส่งผลไม้รายใหญ่แห่งหนึ่งในตลาดค้าส่งผลไม้บัวตอง ริมถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ ซึ่งย่านนั้นเป็นย่านค้าผลไม้และพืชผักสดทั้งหมด

“ผมได้ซื้อทุเรียนหมอนทองคัดเกรดเอจำนวน 66 ผล และทุเรียนเบญจพรรณอีก ราวกว่า 30 ผล ราคารวม 7,500 บาทบรรทุกใส่ท้ายรถกระบะมีรั้วของผมเพื่อเตรียมนำส่งตามออเดอร์และรอการซื้อผลไม้อื่นๆอีกจำนวนหนึ่งเพื่อนำส่งไปพร้อมกัน ช่วงค่ำได้มีลูกหลาน และญาติมาที่บ้านบอกว่าทุเรียนน่ากิน ผมจึงหยิบทุเรียนบนรถจำนวน 3 ผล มาปอกแบ่งกันรับประทานหน้าบ้าน”

นายสิรภพ บอกต่อว่าหลังจากที่ร่วมวงกันรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากนั้นราวไม่เกิน 20 นาที ลูกหลานที่รับประทานเข้าไปกินทุเรียนเข้าไปต่างอาเจียนกันทุกคน และมีอาการอ่อนเพลียหน้ามืด ปวดท้องตัวงอ เพื่อนบ้านและตนได้ไปช่วยกันนำน้ำมะพร้าวมาผ่าให้คนที่มีอาการดื่มเพื่อกำจัดพิษตามวิธีโบราณที่ถือว่าน้ำมะพร้าวสามารถกำจัดพิษต่างๆได้เป็นอย่างดี และนำส่งสถานีอนามัยจนมีอาการปลอดภัย

“หลังจากนั้นผมมาสังเกตทุเรียนที่เหลือจากการรับประทานพบว่ามีกลิ่นหอมเหมือนทุเรียนทั่วไป แต่เมื่อดมใกล้กับเนื้อจะมีกลิ่นแสบจมูกคล้ายกับกลิ่นสารเคมี รวมทั้งมีสีที่ค่อนข้างซีดกว่าปกติ หลังจากนั้นผมได้นำทุเรียนทั้งหมดมาหาแผงผลไม้ที่ผมซื้อไปเพื่อที่จะเจรจาของคืน เนื่องจากเกรงว่าลูกค้าที่ซื้อไปจากผมจะมีอาการเช่นเดียวกัน แต่ผู้ค้าไม่รับคืนผมจึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินตามช่องทางที่สามารถดำเนินการได้ และวิตกว่าหากผู้รับประทานเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่เป็นผลดีกับภาพรวมอย่างแน่นอน” พ่อค้าทุเรียนระบุ

พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่าเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันการแจ้งความของนายสิรภพไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน และจะมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่รับประทานทุเรียนเข้าไปทั้งหมดที่ได้รับอันตรายหลังจากการรับประทาน ซึ่งขณะเกิดการรับประทานนั้นอยู่ในท้องที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช แต่นายสิรภพซื้อทุเรียนไปจากท้องที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นเหตุเกี่ยวเนื่อง อย่างไรก็ตามจะได้เชิญผู้ค้าส่งที่ตลาดหัวอิฐมาสอบสวน ถึงที่มาของทุเรียนว่าได้มาอย่างไร และจะต้องส่งทุเรียนของกลางไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วย

ขณะที่แม่ค้าขายส่งผลไม้ย่านที่นายสิรภพไปซื้อมานั้น(สงวนชื่อ) เปิดเผยว่านายสิรภพได้ซื้อทุเรียนชุดนี้ไปจากแผงค้าของตนจริง แต่ต้องยอมรับด้วยว่าแผงนั้นจะรับซื้อมาจากพ่อค้าหรือจากสวนหลายจุดด้วยกัน ทำให้ไม่รู้ว่าทุเรียนชุดไหนมีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ เนื่องจากต้องนำมาคละแล้วคัดเกรด การที่นายสิรภพจะมาขอคืนนั้นไม่สามารถรับคืนได้หากรับคืนเท่ากับขาดทุนย่อยยับและไม่รู้ว่าผลไหนมีสารพิษผลไหนไม่มีสารพิษ พ่อค้าแม่ค้าเป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น การใช้สารเคมีทั้งหลายอยู่ที่เกษตรและแหล่งรับซื้อขนาดใหญ่มากกว่าที่จะมาอยู่ที่แม่ค้ารายย่อย

ขณะที่นายชวน (นามสมติ) เกษตรกรชาวสวนทุเรียนรายหนึ่งใน อ.ท่าศาลา เปิดเผยว่าทุเรียนที่มีอยู่ในตลาดตลอดทั้งปีนั้นเป็นทุเรียนที่เรียกว่า “ทวาย” หรือการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล การผลิตทุกขั้นตอนมีการใช้สารเคมีทั้งหมดแต่ละสวนนั้นลงทุนหลายแสนหรือนับล้านบาทเพื่อการผลิตทุเรียนต่อรุ่น ตั้งแต่ระบบให้น้ำ การใช้ปุ๋ย ฮอร์โมนควบคุมใบ เร่งดอก แม้กระทั่งต้องใช้สว่านเจาะลำต้นเพื่อใส่สารเคมีเข้าไป สามารถสั่งได้ให้ทุเรียนติดดอกออกผลช่วงไหน แต่ยืนยันว่าในช่วงการเก็บเกี่ยวนั้นพ่อค้าที่รับซื้อจะมาซื้อแบบเหมาสวน จะตัดทุเรียนทุกขนาด ซึ่งต้องยอมว่าทุเรียนแต่ละผลนั้นมีความห่าม หรือความแก่ไม่เท่ากัน แต่ขณะที่เก็บเกี่ยวนั้นไม่มีการใช้สารเคมี

“ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของการใช้สารเคมีจริงๆ เคยสังเกตหรือไม่ว่าเหตุใดทุเรียน 1 คันรถปิ๊คอัพหรือรถสิบล้อสามารถสุกได้พร้อมกันทั้งหมดอย่างน่าเหลือเชื่อเพราะนั่นคือการใช้สารเคมีอย่างรุนแรง เริ่มต้นพ่อค้าที่มารับซื้อช่วงแรกจะนำไปแช่สารเคมีในอ่างขนาดใหญ่เพื่อควบคุมการออสโมสิสภายในผลให้สุกช้าลง ต่อมาคือการนำเอาสารเคมีมาป้ายที่ขั้วผลแผลตัดจากต้น ตรงนี้คือสาเหตุที่ทำให้สารเคมีดูดซึมไหลผ่านท่อน้ำเลี้ยงเข้าไปในผลและต่อไปคือแทรกซึมในเนื้อ จึงน้าเชื่อว่าสารตรงนี้เข้าสู่เนื้อเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเมื่อรับประทานเข้าไป เหตุผลเดียวที่ต้องใช้สารคือการควบคุมการสุกงอมเท่านั้นเพราะทุเรียนเมื่อตัดแล้วจะสุกค่อนข้างเร็วโดยเฉพาะเมื่อแก่จัด แต่ถ้าเป็นทุดเรียนเมื่อใช้ระบบนี้จะสุกพร้อมกับทุเรียนแก่อย่างน่าเหลือเชื่อ” เกษตรกรรายนี้กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น