กระบี่ -หน่วยรักษาป่าฯกระบี่เข้าสอบแนวเขตทำถนนปลอดฝุ่นที่เกาะลันตา ขณะที่ชาวบ้านอ่าวทองหลาง อ.เกาะลันตา ไม่พอใจรวมตัวต้านเชื่อการเข้าจับกุมเกิดจากฝีมือนายทุน แฉมีการรุกที่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 28 ม.ค.2553) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากชาวบ้าน หมู่ที่ 7 บ้านอ่าวทองหลาง ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ว่า ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่กบ.9 (เกาะกลาง) จำนวนประมาณ 10 นาย ได้เข้าทำการตรวจวัดแนวเขต ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างถนนสาย ระหว่างบ้านอ่าวจ้าวอูฐ หมู่ 9 ไปยังบ้านอ่าวทองหลาง หมู่ที่ 7 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา ระยะทาง 3,850 เมตร พร้อมสั่งห้ามเครื่องจักรทำงาน เนื่องจากโครงการก่อสร้างถนนรุกล้ำชายป่าชายเลน ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงได้รวมตัวกันประมาณ 30 คน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดเครื่องจักร
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านยืนรวมตัวกันที่บริเวณถนน ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สอบถาม นายชูศักดิ์ ขาวแดง อายุ 42 ปี ชาวบ้านอ่าวทองหลางทราบว่า สาเหตุที่มารวมตัวกันเนื่องจากทราบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้ามายึดเครื่องจักร ที่กำลังปรับถนน เพราะว่าจะทำให้โครงการก่อสร้างถนน ที่ชาวบ้านรอคอยมานานกว่า 20 ปี ต้องหยุดชะงัก ทั้งที่การตัดถนนเส้นดังกล่าวผ่านการตรวจสอบและขออนุญาตใช้พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้ว และหากยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป ก็จะรวมตัวประท้วงแน่นอน
ชาวบ้านอีกราย กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าการเข้าจับกุมคนงานและเครื่องจักรที่กำลังก่อสร้าง น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งจากนายทุนรายหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้พยายามวิ่งเต้นให้ทาง นายก อบต.เกาะกลาง เซ็นชื่อว่าที่ดินอยู่ใกล้เคียงที่ดินเขาช่องแห้ง นับ 100 ไร่ ม.7 บ้านอ่าวทองหลาง เพื่อประโยชน์ในการขอออกโฉนด แต่นายก อบต.ไม่ยอมเซ็นให้ เนื่องจาก นายก อบต.ไม่มีที่ดิน บนเกาะดังกล่าว ทำให้นายทุนรายนั้นโกรธแค้นมาก
ต่อมานายศรีเภา รุจิพัจรกุล นายกอบต.เกาะกลาง ได้เข้ามาพบกลุ่มชาวบ้านพร้อมกล่าวว่า ตนได้นำเอกสารหลักฐานการตรวจสอบที่ ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้ว มีหลักฐานการตรวจสอบไม่อยู่ในเขตป่าชายเลน ซึ่งได้แจ้งให้ นายสมเกียรติ ศรีทอง หน.สายตรวจปราบปรามการกระทำผิด ภาคใต้ กรมป่าไม้ และนายกฤษฎา สุตนพัฒน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่กบ.9 (เกาะกลาง) ทราบแล้ว และทราบว่าสาเหตุเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากได้รับคำสั่งมาจากส่วนกลางว่ามีการรุกล้ำป่าชายเลนให้เข้ามาตรวจสอบ แต่เมื่อตรวจสอบแนวเขตแล้วอยู่ในเขตที่ดินส.ป.ก. ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน และไม่อยู่ในเขตป่าชุ่มน้ำ แต่อย่างใด จึงทำการบันทึกและรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อทราบ จึงทำให้ชาวบ้านยอมสลายตัว
สำหรับถนนสายดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างถนนปลอดฝุ่น ได้รับงบประมาณจากรัฐบาล 40 ล้านบาท ซึ่งกรมทางหลวงชนบทเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างปรับพื้นผิวถนน รอดำเนินการลาดยาง ซึ่งจะแล้วเสร็จตามกำหนดโครงการในเดือนพฤษภาคม 2553