พัทลุง-แกนนำเอ็นจีโอต่อต้านบุกรุกป่าพรุนครศรีฯ ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนและสภาทนายความ หวั่นคดีไม่คืบหน้า หลังคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มได้รับบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ประธานชมรมคนรักป่าพรุถูกยิงตายมาแล้ว แต่คดีไม่คืบเช่นเดียวกัน
จากกรณีที่คนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คนขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 กราดยิง นายกฤษฏา จีระพันธ์ แกนนำต่อต้านการบุกรุกป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 19 ม.ค. บนถนนสายพัทลุง – ควนกุฎิ ท้องที่หมู่ที่ 7 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 3 ปลอก ส่วนรถยนต์ของผู้บาดเจ็บที่ประตูขวาด้านหน้ามีหัวกระสุนปืน 9 มม. ฝังอยู่ 2 หัว ส่วนนายกฤษฎามีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่บริเวณมือขวากระสุนฝังใน 1 นัด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกฤษฏา ได้ขับรถเก๋งส่วนตัวกลับจากท้องที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้มีคนร้าย 4 คน ใช้รถกระบะโตโยต้าแคป สีบรอนซ์เงิน เป็นพาหนะ ขับตามขึ้นมาประกบ พร้อมใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และ 9 มม. กระหน่ำยิง ถูกกระจกขวาด้านหลังเป็นรู 7 รู กระจกหน้าด้านซ้าย 7 รู ประตูหลังด้านซ้าย 3 รู และถูกนายกฤฏาได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับนายกฤษฎา มีประวัติเป็นนักอนุรักษ์และแกนนำคนสำคัญคนหนึ่ง ที่ต่อต้านการบุกรุกป่าพรุควนนก ต.ควนชลิต อ.หัวไทร และเคยเป็นตัวแทนชาวบ้านในการเข้าไปตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว
นายกฤษฏา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายชอบ ดำขุนนุ้ย รองประธานชมรมคนรักป่าพรุควนเคร็ง แกนนำชาวบ้านต่อต้านนายทุนที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าพรุดังกล่าวกว่า 1,000 ไร่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ในท้องที่ ม.5 ต.ควนชลิต อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2552 ที่ผ่านมา จนขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตนจึงเป็นเหยื่อกระสุนคนต่อไป แต่รอดตายมาได้ และเกรงคดีจะไม่คืบจึงได้ร้องไปยังสภาทนายความ และสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมในการต่อสู้กับกลุ่มนายทุน ที่มีนักการเมืองระดับชาติหนุนหลังเพื่อยึดพื้นที่ป่าพรุเป็นของตัวเอง
ต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการตามฆ่าหลังทราบว่าเหยื่อยังมีชีวิตอยู่
จากกรณีที่คนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คนขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 กราดยิง นายกฤษฏา จีระพันธ์ แกนนำต่อต้านการบุกรุกป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 19 ม.ค. บนถนนสายพัทลุง – ควนกุฎิ ท้องที่หมู่ที่ 7 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 3 ปลอก ส่วนรถยนต์ของผู้บาดเจ็บที่ประตูขวาด้านหน้ามีหัวกระสุนปืน 9 มม. ฝังอยู่ 2 หัว ส่วนนายกฤษฎามีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่บริเวณมือขวากระสุนฝังใน 1 นัด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกฤษฏา ได้ขับรถเก๋งส่วนตัวกลับจากท้องที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้มีคนร้าย 4 คน ใช้รถกระบะโตโยต้าแคป สีบรอนซ์เงิน เป็นพาหนะ ขับตามขึ้นมาประกบ พร้อมใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และ 9 มม. กระหน่ำยิง ถูกกระจกขวาด้านหลังเป็นรู 7 รู กระจกหน้าด้านซ้าย 7 รู ประตูหลังด้านซ้าย 3 รู และถูกนายกฤฏาได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับนายกฤษฎา มีประวัติเป็นนักอนุรักษ์และแกนนำคนสำคัญคนหนึ่ง ที่ต่อต้านการบุกรุกป่าพรุควนนก ต.ควนชลิต อ.หัวไทร และเคยเป็นตัวแทนชาวบ้านในการเข้าไปตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว
นายกฤษฏา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายชอบ ดำขุนนุ้ย รองประธานชมรมคนรักป่าพรุควนเคร็ง แกนนำชาวบ้านต่อต้านนายทุนที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าพรุดังกล่าวกว่า 1,000 ไร่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ในท้องที่ ม.5 ต.ควนชลิต อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2552 ที่ผ่านมา จนขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตนจึงเป็นเหยื่อกระสุนคนต่อไป แต่รอดตายมาได้ และเกรงคดีจะไม่คืบจึงได้ร้องไปยังสภาทนายความ และสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมในการต่อสู้กับกลุ่มนายทุน ที่มีนักการเมืองระดับชาติหนุนหลังเพื่อยึดพื้นที่ป่าพรุเป็นของตัวเอง
ต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการตามฆ่าหลังทราบว่าเหยื่อยังมีชีวิตอยู่