กระบี่ - รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่กระบี่ ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด เน้นย้ำอย่าต่างคนต่างทำ อ.เหนือคลอง 16 หมู่บ้านประกาศเป็นพื้นที่สีขาวปลอดยาเสพติด
เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินมายังจังหวัดกระบี่ พร้อมมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เพื่อดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้หมดไปจากพื้นที่ โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยเลิศ ภิญโญรัตน์โชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พ.ล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ซึ่งที่ประชุมนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางฝ่ายปกครองนายอำเภอทุกอำเภอต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเน้นการเข้าถึงชุมชน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่ ในแต่ละพื้นที่ จะต้องผนึกกำลังในการทำงานในทิศทางเดียวกัน ดึงชุมชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการป้องกันยาเสพติด สร้างความเข็มแข็งในหมู่บ้าน ชุมชนในการป้องกันยาเสพติดเพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด
หลังจากประชุมเสร็จรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินไปยังหมู่บ้านตัวอย่างในการป้องกันยาเสพติด บ้านบางผึ้ง ม.5 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อติดตามการจัดการการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแผนปฏิบัตินโยบายของกระทรวงมหาดไทย Clean $ Seal ทำความดีเพื่อแผ่นดินกวาดล้างให้สิ้นยาเสพติด มีนายสุนทร เครือหลี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอเหนือคลอง รายงาน
ซึ่งพื้นที่อำเภอเหนือคลอง มี 80 ตำบาล 57 หมู่บ้าน 1 เทศบาลตำบล ประชาชนมีอาชีพทำสวนพารา ปลูกปาล์มน้ำมัน และการท่องเที่ยว สถานการณ์ด้านยาเสพติดอยู่ในระดับ ไม่รุนแรงไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชนมากนัก มีการแพร่ระบาดใน จำนวน 4 หมู่บ้าน จำพวกยาบ้า สี่คูณร้อย กัญชา พืชกระท่อมตามลำดับ ในปีที่ผ่านมา จับผู้ค้าได้ 52 คดี ผู้ต้องหา 65 คน นำผู้เสพบำบัด 42 คน และระยะที่ 2 ปี 53 (พ.ย.52-30 ก.ย.53) มอบหมายให้ทุกหมู่บ้าน จัดหาแหล่งข่าว แจ้งข่าว เพื่อการปราบปราม จัดชุดเฝ้าระวัง โดยการบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ซึ่งมี16 หมู่บ้าน ประกาศเป็นหมู่บ้านสีขาว
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดจำเป็นที่จะต้องย้ำเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยในการทำงานแต่ละพื้นที่ต้องจับมือไปด้วยกัน เพราะถ้าหากว่าทั้งสองฝ่ายทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเดินไปด้วยกันแล้ว ยาเสติดที่มีอยู่ในพื้นที่ก็จะหมดไป ถ้ายาเสพติดจะผ่านเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเต็มที่และโดยตรง หากต่างคนต่างทำก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ