ยะลา – แม่เด็กได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ใต้วัย 9 ขวบ ซึ่งรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 22 เดือนขอเครื่องช่วยหายใจจากรัฐ เป็นของขวัญวันเด็กให้กับลูก โดยนายถาวร เสนเนียม เผยรัฐบาลพร้อมทุ่มงบประมาณซื้อเครื่องช่วยหายใจให้ผู้ป่วยแล้ว และจะดูแลอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ได้มอบตุ๊กตาหมีเป็นกำลังใจรับวันเด็กที่จะถึงอีกด้วย
นางอังคณา วาเต๊ะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 464 หมู่ที่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.สูไฮมี ดอเลาะ อายุ 9 ขวบ ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลศูนย์ยะลา กว่า 22 เดือน ในสภาพ ที่เป็นอัมพาต และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2551 จนเป็นเหตุให้ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำคอด้านหลัง และแขนขวา ทำให้ไขสันหลังถูกทำลาย เป็นอัมพาตเครื่องตัว กล่าวในขณะที่เฝ้าดูแล ด.ช.สูไฮมี ว่า ชีวิตของครอบครัวตนเอง หลังจากที่ ลูกชายได้รับบาดเจ็บและนอนรักษาตัวเป็นเวลานาน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องแยกกันอยู่ระหว่างลูกๆ ที่บ้าน กับตนเอง เพราะตนต้องมาเฝ้าดูแล ด.ช.สูไฮมี ที่ โรงพยาบาล ไม่มีเวลาไปดูแลลูกๆ ที่เหลือ และปรนนิบัติผู้เป็นสามีได้อย่างเต็มที่
ประกอบกับ ด.ช.สูไฮมี นอนรักษาตัวโดยไม่สามารถช่วยตัวเองได้ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา สำหรับของขวัญวันเด็กปีนี้ ถ้าเป็นไปได้ตนเองของให้ลูกชายมีสุขภาพแข็งแรง หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วกลับเข้าสู่ปกติเหมือนเดิมและวอนจากผู้เกี่ยวข้อง หรือรัฐบาล ให้ช่วยอนุเคราะห์เครื่องช่วยหายใจให้กับลูก เพื่อจะได้นำลูกชายกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และสามารถให้การดูแลลูกๆ ที่เหลือ พร้อมกับสามี ได้ตามปกติ
ในขณะที่ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเด็กชายสูไฮมี ที่ห้องศัลยกรรมประสาทศูนย์โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยมี นพ.กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการ ให้การต้อนรับ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ได้นำตุ๊กตาหมี ซึ่งเด็กชายสูไฮมี ต้องการเป็นของขวัญในวันเด็ก
นายถาวร กล่าวว่า ทางรัฐบาลไม่ได้นิ่งดูแล ในการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ สำหรับในรายของเด็กชายสูไฮมี ที่ต้องการเครื่องช่วยหายใจนั้น ทางรัฐบาลได้จัดสรรงบจัดซื้อเครื่องหายใจมอบให้ในราคากว่า 7 แสนบาท ส่วนในรายอื่นๆ นั้น รัฐมีการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมการด้านการศึกษาจนจบในระดับปริญญาตรี และส่วนพ่อแม่ ให้ได้รับเงินรายเดือนๆ ละ 4,500 บาท
