xs
xsm
sm
md
lg

ยะลาประชุมด่วนเน้นป้องกันสูญเสียชีวิตรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - เรียกผู้เกี่ยวข้องประชุมด่วนวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม รับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือถล่มภาคใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ เน้นป้องกันการสูญเสียชีวิตเป็นหลัก

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ห้องประชุมศรียะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ยะลา มอบหมายให้ นายกฤษฏา บุญราช พร้อมด้วย นายเดชรัฐ สิมศิริ และ นายอับดุลอายี สาแมง รองนายก อบจ. เป็นประธานการประชุม ผู้เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ยะลา โดยมี ผบ.หน่วยกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นายอำเภอทุกอำเภอ แขวงการทางจังหวัด ทางหลวงชนบทจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชลประทานจังหวัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัด นายกเทศบาลทุกเทศบาล และนายก อบต.ทุก อบต.เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกำลังบุคลากร เครื่องจักรกลและงบประมาณ ในการเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาที่คาดหมายว่าอากาศทางภาคใต้ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ จะมีความกดอากาศต่ำลงพัดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมีสรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพักปกคลุมอ่าวไทยตลอดทั้งเดือน ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก มีพายุลมแรง อาจทำให้พื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ราบลุ่มและป่าเขา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มปิดเส้นทาง ทำให้ต้องมีการซักซ้อมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าว

สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยที่ได้รับผลกระทบ ดินถล่มปิดเส้นทาง ประกอบด้วย อ.เบตง ได้แก่ ต.ยะรม, ต.ตาเนาะแมเราะและ และ ต.อัยเยอร์เวง อ.บันนังสตา ได้แก่ ต.เขื่อนบางลาง, ต.ตลิ่งชัน, ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และต.ถ้ำทะลุ อ.กรงปินัง ได้แก่ ต.ห้วยกระทิง และต.สะเอ๊ะ อ.กาบัง ได้แก่ ต.บาละ และ ต.กาบัง ส่วนพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ประกอบด้วย อ.รามัน จำนวน 9 ตำบล 40 หมู่บ้าน อ.เบตง จำนวน 4 ตำบล 36 หมู่บ้าน อ.บันนังสตา จำนวน 6 ตำบล 32 หมู่บ้าน อ.กรงปินัง จำนวน 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน อ.เมืองยะลา จำนวน 12 ตำบล 45 หมู่บ้าน อ.ยะหา จำนวน 7 ตำบล 29 หมู่บ้าน อ.กาบัง จำนวน 2 ตำบล 14 ตำบล และ อ.ธารโต จำนวน 4 ตำบล 35 หมู่บ้าน

นายกฤษฏา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า จังหวัดยะลาทุกปีในบางพื้นที่มักจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มซ้ำซาก ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้การเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีเกิดเหตุได้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะหากเกิดเหตุน้ำท่วมดินถล่มเส้นทางถูกตัดขาด ทางราชการต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือนำออกมาให้ได้ภายใน 24 ชม.เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยหน่วยงานแรกที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือได้แก่ องค์กรส่วนท้องถิ่นโดยใช้อำนาจการเบิกจ่ายงบประมาณของนายอำเภอ ครั้งละ 1 ล้านบาท

ในขณะเดียวกัน พื้นที่ที่ยังไม่จำเป็นอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ หน่วยงานราชการจะต้องนำเครื่องอุปโภค บริโภคเข้าไปให้การช่วยเหลือทันทีเช่นกัน โดยประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่และข้างเคียง เพื่อให้เข้าพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น