นครศรีธรรมราช – “เทพไท เสนพงศ์” แนะสมุน “แม้ว” ปรึกษา “เตช บุนนาค” ถึงประเด็นหนังสือลับ กต.จะรู้แท้ ยัน “ทักษิณ” คือภัยชาติ รับกังวลถูกแปลงสารถึงมือ “ฮุนเซน” ทำกร้าวขึ้นเย้ยซ้ำ “ปลอดประสพ” ไม่รู้ กม.ไม่แปลกเคยโดนไล่ออกจากราชการ
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ เปิดเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศถือเป็นตัวการในการกระทำความผิด และพรรคเพื่อไทยก็รู้อยู่แล้วว่าได้กระทำความผิดโดยเอาความลับเกี่ยวกับความมั่นคงมาเปิดเผย แต่ยังมีกรรมการบริหารพรรคกระโดดเข้ามาเป็นตัวช่วยนายจตุพร ในฐานะผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตั้งแต่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นต้น
“คนเหล่านี้พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงในหนังสือโดยอ้างว่า รัฐบาลใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธว่าไม่ใช่ภัยคุกคามของชาติ แต่ภัยคุกคามของชาติของประชาชนคือความยากจนนั้น เป็นเรื่องที่ผู้บริหารพรรคเข้าใจผิด เพราะภัยคุกคามชาติในขณะนี้คือตัว พ.ต.ท.ทักษิณ คนทั้งประเทศต่างรู้ว่าถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ปัญหาของชาติไม่เกิด” นายเทพไทกล่าวต่ออีกว่า
ข้อสรุปในหนังสือนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภัยหลักที่คุกคามชาติ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนการที่นายปลอดประสบออกมากล่าวหาหนังสือนี้เป็นหนังสือที่ออกคำสั่งที่ผิดกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ ขัดระเบียบราชการ ขัดต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หนังสือนี้คงไม่เข้าใจว่าเป็นหนังสือรายงานการแก้ปัญหาไม่ใช่คำสั่งทางราชการ จึงไม่ได้ผิดรัฐธรรมนูญ หรือขัดรัฐธรรมนูญตามที่นายปลอดประสพ เข้าใจ
นายเทพไท ยังกล่าวต่อว่า เรื่องนี้จึงไม่แปลกใจว่านายปลอดประสพเป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงแต่ไม่รู้กฎหมาย จึงทำให้มีการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดกฎหมายถึงขั้นถูกไล่ออกจากราชการมาแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องที่บอกว่าขอให้รัฐบาลทำทุกอย่างตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟหยุดการทำลายล้างในสังคม ข้อเรียกร้องนี้ไม่ควรมาเรียกร้องรัฐบาลชุดนี้เพราะรัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัดไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ หยุดยั้งการทำลายล้างในสังคม
นายปลอดประสพควรไปเรียกร้องกับเจ้านายตัวเองคือ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะถูกตัวมากกว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพฤติกรรมข้อเรียกร้องจะมีความเป็นจริงขึ้นมาได้ เรื่องหนังสือนี้ที่นายตุพร ออกมาข่มขู่เปิดโปงระลอก 2 อยากจะให้นายจตุพร หรือคนในพรรคเพื่อไทยไปฟังความเห็นของอดีตนักการทูต ซึ่งเป็นหลักผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประเทศหลายคนที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว หรือนายอัษฎา ไชยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ หรือนายสุรพงศ์ ไชยนาม อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ หรือนายเตช บุนนาค อดีต รมต.ต่างประเทศ ในสมัยนายสมัคร หรืออดีตปลัดกระทรวงต่างประเทศ ว่าการเอาเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศมาเผยแพร่ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์อย่างไรบ้าง
“การห้ามไม่ใช่ว่ากลัวความจริง และพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงแต่เกรงว่าเอกสารนี้ออกไปจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้ ชุดที่ออกมาสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลอยู่แล้วเปิดชุดที่สองความเสียหายมากเป็นเท่าทวีคูณ ดูพฤติกรรมฮุนเซนเชื่อว่าเอกสารนี้มีคนนำไปให้แล้ว และไม่มั่นใจว่าเอกสารชุดนั้นจะได้รับการแปลเป็นภาษาเขมรให้ฮุนเซนอ่านอย่างไรบ้างหรือไปตัดเติมเสริมแต่ให้ฮุนเซนเกิดอารมณ์และทัศนคติที่ไม่ดีต่อประเทศไทยมากขึ้น ขณะการแข็งกร้าวนั้นเป็นผลงานของคนในระบอบทักษิณที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ร้อนแรง สุมไฟเพื่อเร่งสถานการณ์การชุมนุมหลังปีใหม่ของคนเสื้อแดง” นายเทพไทกล่าวทิ้งท้าย
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ เปิดเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศถือเป็นตัวการในการกระทำความผิด และพรรคเพื่อไทยก็รู้อยู่แล้วว่าได้กระทำความผิดโดยเอาความลับเกี่ยวกับความมั่นคงมาเปิดเผย แต่ยังมีกรรมการบริหารพรรคกระโดดเข้ามาเป็นตัวช่วยนายจตุพร ในฐานะผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตั้งแต่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นต้น
“คนเหล่านี้พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงในหนังสือโดยอ้างว่า รัฐบาลใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธว่าไม่ใช่ภัยคุกคามของชาติ แต่ภัยคุกคามของชาติของประชาชนคือความยากจนนั้น เป็นเรื่องที่ผู้บริหารพรรคเข้าใจผิด เพราะภัยคุกคามชาติในขณะนี้คือตัว พ.ต.ท.ทักษิณ คนทั้งประเทศต่างรู้ว่าถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ปัญหาของชาติไม่เกิด” นายเทพไทกล่าวต่ออีกว่า
ข้อสรุปในหนังสือนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภัยหลักที่คุกคามชาติ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนการที่นายปลอดประสบออกมากล่าวหาหนังสือนี้เป็นหนังสือที่ออกคำสั่งที่ผิดกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ ขัดระเบียบราชการ ขัดต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หนังสือนี้คงไม่เข้าใจว่าเป็นหนังสือรายงานการแก้ปัญหาไม่ใช่คำสั่งทางราชการ จึงไม่ได้ผิดรัฐธรรมนูญ หรือขัดรัฐธรรมนูญตามที่นายปลอดประสพ เข้าใจ
นายเทพไท ยังกล่าวต่อว่า เรื่องนี้จึงไม่แปลกใจว่านายปลอดประสพเป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงแต่ไม่รู้กฎหมาย จึงทำให้มีการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดกฎหมายถึงขั้นถูกไล่ออกจากราชการมาแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องที่บอกว่าขอให้รัฐบาลทำทุกอย่างตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟหยุดการทำลายล้างในสังคม ข้อเรียกร้องนี้ไม่ควรมาเรียกร้องรัฐบาลชุดนี้เพราะรัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัดไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ หยุดยั้งการทำลายล้างในสังคม
นายปลอดประสพควรไปเรียกร้องกับเจ้านายตัวเองคือ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะถูกตัวมากกว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพฤติกรรมข้อเรียกร้องจะมีความเป็นจริงขึ้นมาได้ เรื่องหนังสือนี้ที่นายตุพร ออกมาข่มขู่เปิดโปงระลอก 2 อยากจะให้นายจตุพร หรือคนในพรรคเพื่อไทยไปฟังความเห็นของอดีตนักการทูต ซึ่งเป็นหลักผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประเทศหลายคนที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว หรือนายอัษฎา ไชยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ หรือนายสุรพงศ์ ไชยนาม อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ หรือนายเตช บุนนาค อดีต รมต.ต่างประเทศ ในสมัยนายสมัคร หรืออดีตปลัดกระทรวงต่างประเทศ ว่าการเอาเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศมาเผยแพร่ทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์อย่างไรบ้าง
“การห้ามไม่ใช่ว่ากลัวความจริง และพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงแต่เกรงว่าเอกสารนี้ออกไปจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้ ชุดที่ออกมาสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลอยู่แล้วเปิดชุดที่สองความเสียหายมากเป็นเท่าทวีคูณ ดูพฤติกรรมฮุนเซนเชื่อว่าเอกสารนี้มีคนนำไปให้แล้ว และไม่มั่นใจว่าเอกสารชุดนั้นจะได้รับการแปลเป็นภาษาเขมรให้ฮุนเซนอ่านอย่างไรบ้างหรือไปตัดเติมเสริมแต่ให้ฮุนเซนเกิดอารมณ์และทัศนคติที่ไม่ดีต่อประเทศไทยมากขึ้น ขณะการแข็งกร้าวนั้นเป็นผลงานของคนในระบอบทักษิณที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ร้อนแรง สุมไฟเพื่อเร่งสถานการณ์การชุมนุมหลังปีใหม่ของคนเสื้อแดง” นายเทพไทกล่าวทิ้งท้าย