ดัน “บิ๊กเหวียง” ลงแข่ง ส.ส. เกมของใคร ในเพื่อไทย!?

ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากปาก “บิ๊กเหวียง” พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ.-รมว.กลาโหม-หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ต่อกระแสข่าวจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่ปราจีนบุรี ซึ่งจะมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค.53 นี้หรือไม่

เหตุเพราะตั้งแต่เป็นข่าวมา 3-4 วัน “บิ๊กเหวียง” เล่นปิดการติดต่อสื่อสารทุกรูปแบบ ทำให้แกนนำพรรค-ส.ส.เพื่อไทย-สื่อมวลชน ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงจากปาก อดีต ผบ.ทบ.ผู้นี้

จึงทำให้กระแสข่าวดังกล่าวยัง 50/50 ส่วนที่ว่ายังไม่แน่ถึงขั้นชัวร์เลย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ว่าเป็นข่าวโคมลอย แต่เป็นเพราะว่ากำลังรอ

“คำตอบสุดท้าย” จากบิ๊กเหวียงว่าจะ เซย์ “เยส” หรือ “โน” นั่นเอง

หาก “บิ๊กเหวียง” ตอบรับข้อเสนอครั้งนี้ที่ผลักดันโดยแกนนำพรรคเพื่อไทย สายภาคกลาง อาทิ วิทยา บูรณศิริ และ เผดิมชัย สะสมทรัพย์ จะเป็นบันไดสำคัญดันให้ “บิ๊กเหวียง” ได้กลับมามีพื้นที่บนเวทีการเมืองเต็มรูปแบบด้วยการเป็นส.ส.หากชนะการเลือกตั้ง จากนั้นก้าวต่อไปก็คือ “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” และ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร

ที่สำคัญ ชื่อ “บิ๊กเหวียง” หัวหน้าพรรคตัวจริง นช.ทักษิณ ชินวัตร ก็โอเคไม่ขัดข้อง

สำหรับ “บิ๊กเหวียง” ในพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้ กับการทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยมาหลายเดือน “บิ๊กเหวียง” น่าจะเห็นแล้วว่า เป็นตำแหน่งที่ไม่มีบทบาทอะไร เข้าประชุมส.ส.พรรคแต่ละครั้งก็เป็นแค่

พระอันดับ นั่งหงอยๆ ในห้องประชุม

ยิ่งเมื่อ “พี่จิ๋ว” พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินเข้าพรรคเพื่อไทย ก็ยิ่งทำให้รัศมีของ “น้องเหวียง” ยิ่งถูกบดบัง

ด้วยเหตุนี้กระมัง พอได้ลูกยุของ วิทยา บูรณศิริ แกนนำพรรคที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคกลางผสมกับมีกระแสข่าวว่า เสนาะ เทียนทอง ซึ่งมีความแนบแน่นกับ พลเอกเชษฐา มายาวนาน ให้คำยืนยันกับวิทยา ส่งไปถึงพลเอกเชษฐาว่า

ไม่ต้องเป็นห่วง หากจะลงสมัครจริง จะช่วยหาเสียงให้อีกแรง เพราะ ปราจีนบุรี-สระแก้ว ก่อนหน้านี้ก็เป็นจังหวัดเดียวกันมาก่อน จึงทำให้ เสนาะ เชื่อว่าบารมีตระกูล “เทียนทอง” ยังพอมีบารมีหากินได้ที่ปราจีนบุรี

ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ “บิ๊กเหวียง” ที่กำลังเบื่อกับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคนอกสภา ซึ่งไม่มีอำนาจ และบทบาทอะไร เพราะขนาดหัวหน้าพรรคอย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ พวกส.ส.เพื่อไทย ยังไม่เคยเห็นหัว หรือเกรงใจ เพราะรู้กันดีว่าเป็นแค่ไม้ประดับ ตั้งไว้เล่นๆ หัวหน้าพรรคตัวจริงเสียงจริงก็คือ นช.ทักษิณ

ด้วยลูกยุ-คำยืนยัน ทั้งจากวิทยา-เสนาะ กระมังที่ทำให้ วิทยา เลยตีขุมไปว่า “บิ๊กเหวียง” ไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะหากหมากนี้สำเร็จ วิทยา ได้ตีปีกใหญ่ในพรรคเพื่อไทยทันที!

เพราะตอนนี้คนเพื่อไทยรู้กันดีว่า ระยะหลัง “เสี่ยอ๊อด กรุงเก่า” ที่ก่อนหน้านี้เคย หักเหลี่ยมวัดกำลังกับ เฉลิม อยู่บำรุง มาแล้วในเรื่องจุดยืนพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

จน “เสี่ยอ๊อด กรุงเก่า” แก้เกมแทบไม่ทัน และเกือบเพลี่ยงพล้ำ ถึงขั้นจะถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานวิปฝ่ายค้านกลางที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ดีที่สุดท้าย นช.ทักษิณ ลงมาห้ามมวยเสียก่อน ด้วยการประกาศให้พรรคเพื่อไทยไม่ต้องไปร่วมสังฆกรรมแก้รัฐธรรมนูญกับรัฐบาล แล้วให้ วิทยา-เฉลิม จับมือกัน

แต่ความขัดแย้งครั้งนั้น ทำให้วิทยา เห็นแล้วว่า หากเขาคิดจะเติบใหญ่ในพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแกนนำแต่ละกลุ่มล้วนเขี้ยวๆ ทั้งสิ้น จำเป็นต้องมีเพาเวอร์ในพรรคมากกว่านี้

นับแต่นั้นก็มีข่าว วิทยา คนนี้กำลังเริ่ม “สร้างกลุ่ม-ตั้งก๊วน” ในพรรคเพื่อไทย เป็นการใหญ่ หลังเริ่มเห็นว่าพอมีเสื้อคลุม “ประธานวิปฝ่ายค้าน” ก็ทำให้มีเพาเวอร์อำนาจต่อรองภายในพรรค และมีบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ เลยคิดวางแผนจะข้ามชั้นขึ้นมาเป็น “แกนนำพรรค” ระดับกำหนดทิศทางพรรคได้

และหนึ่งในแผนการนั้นก็คือ “ปั้นหัวหน้าพรรค-ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” ที่เป็นคนในสายตัวเอง ซึ่งก็คือ “บิ๊กเหวียง” ที่ วิทยาไปเสนอให้ย้ายฐานการเมืองจากแปดริ้ว มาที่ปราจีนบุรี

เพราะเห็นว่าคุณสมบัติไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากเคยรับราชการอยู่ในพื้นที่ เป็นอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ที่ควบคุมกองกำลังภาคตะวันออกหรือ บูรพาพยัคฆ์ ทั้งหมด

ข่าวแจ้งมาว่าเรื่องนี้ วิทยา เคยนำไปปรึกษากับแกนนำพรรคหลายคน โดยยกเหตุผลต่างๆ เช่น ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว พรรคเพื่อไทย ถูกค่อนแคะว่าเป็น “ผีหัวขาด” เพราะไม่มีผู้นำฝ่ายค้านทั้งที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ อีกทั้งเปิดสภาฯ สมัยหน้า การเมืองจะร้อนแรงขึ้น จำเป็นต้องมีหัวหน้าพรรคที่เป็นส.ส. และผู้นำฝ่ายค้านฯได้แล้ว เพื่อให้การซักฟอกรัฐบาลดำเนินไปแบบเข้มข้น มีผู้นำพรรคตัวจริงนั่งอยู่ในสภาฯ ซึ่งแกนนำพรรคหลายคน ก็เห็นด้วย

เพียงแต่รายชื่อที่นำไปแจ้ง วิทยาไม่ได้เอ่ยตรงๆว่าหัวหน้าพรรค ผู้นำฝ่ายค้าน จะเป็นใคร ซึ่งอาจเป็นเพราะวิทยา ก็กำลังรอคำตอบจาก “บิ๊กเหวียง” อยู่นั่นเอง


แต่ครั้น วิทยา นำเรื่องนี้ไปปูดต่อสาธารณชนว่า ให้จับตาคนที่พรรคจะส่งลงเลือกตั้ง เป็นอดีตนายทหาร นอกราชการ ระดับพลเอก อักษรย่อ ช. ที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งก็แกะรอยได้ไม่ยาก ถ้าไม่ใช่ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร แล้วจะเป็นใคร

ถูกตีกินไปล่วงหน้า ก็เลยทำให้มีข่าวว่า “บิ๊กเหวียง” ตึงๆ ไปพอสมควร เพราะต้องการเก็บเรื่องเอาไว้ก่อน จนกว่าจะตัดสินใจว่าจะเอาด้วยหรือไม่ ไม่ใช่มีข่าวออกมาดักทางไว้แบบนี้

เหตุที่ “บิ๊กเหวียง” อาจใช้เวลานานในการตัดสินใจ

น่าจะเป็นเพราะที่ผ่านมา ตั้งแต่เล่นการเมืองกับไทยรักไทย-รวมใจไทยชาติพัฒนา “บิ๊กเหวียง” ลงสมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์-สัดส่วน มาตลอด ไม่เคยลงระบบเขต อีกทั้งอาจไม่แน่ใจในฐานเสียงตัวเอง และพรรคเพื่อไทย ที่ปราจีนบุรี แถมศึกนี้ พรรคภูมิใจไทย ก็ประกาศส่ง อำนาจ วิลาวัลย์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี หลานชาย สุนทร วิลาวัลย์ อดีตรมช.สาธารณสุข และส.ส.ปราจีนบุรี หลายสมัย น้องรัก เสนาะ เทียนทอง

แถมมีข่าวว่า หัวคะแนนเพื่อไทยบางส่วนก็สนับสนุนให้พรรคส่ง อภิชาต ทันพุฒ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงปราจีนบุรี ไม่เว้นแม้แต่พรรคน้องใหม่ อย่างมาตุภูมิ ก็มีข่าววจะส่ง เฉลิม เกียรติบรรจง ลงสมัครด้วย เช่นกัน “บิ๊กเหวียง”เลยต้องการความชัวร์ว่าถ้าลงเลือกตั้งแล้ว

ต้องชนะสถานเดียว-สอบตกไม่ได้

ไม่อย่างนั้น อดีต ผบ.ทบ.-รมว.กลาโหม แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-นายกรัฐมนตรี เสียหายย่อยยับแน่นอน

คำตอบสุดท้ายจาก “บิ๊กเหวียง” จึงเชื่อว่าน่าจะชัดเจนไม่เกินอาทิตย์นี้ เพราะจะมีการรับสมัครในสัปดาห์หน้า 21-25 ธ.ค.52 แล้ว

มองข้ามช็อต หาก “บิ๊กเหวียง” ชนะการเลือกตั้งขึ้นจริง ก็ใช่ว่าเก้าอี้หัวหน้าพรรค-ผู้นำฝ่ายค้านฯ จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะแค่ยังไม่ทันจะลงเลือกตั้ง ก็มีข่าวแกนนำพรรคหลายกลุ่มก่อหวอดเตรียมขวางเสียแล้ว!