รวบแล้วฆาตรกรโหดฆ่า-ข่มขืนสาวตรัง

ตรัง - จับแล้วหนุ่มฆาตรกรโหด พยายามข่มขืนสาววัย 20 ปี ชาว อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืน จึงใช้มือบีดคอจนตาย แล้วทิ้งศพไว้ในลำธารก่อนหลบหนี

วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พ.ต.อ.เกรียงไกรภพ อธิปฎิเวชช ผู้กำกับการ สภ.วังวิเศษ พ.ต.ท.ประทีป เทพกิจ สารวัตรสอบสวน สภ.วังวิเศษ และนายสมพร ทองเกลี้ยง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 15 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีฆ่าข่มขืน คือ นายวีระเดช หรือ แน็ต กาญจันดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341 หมู่ที่ 15 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.707/2552 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2552

โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีที่ นางสาวกนกวรรณ เลขะสม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 318 หมู่ที่ 15 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ได้ถูกคนร้ายฆาตกรรมทิ้งศพไว้กลางลำธาร ในพื้นที่หมู่ที่ 15 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักเพียงประมาณ 200 เมตรเท่านั้น โดยผู้ตายเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่งงานมีสามีมาอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว และมีบุตรด้วยกัน 1 คน ซึ่งยังมีอายุเพียงแค่ 1 ขวบ 2 เดือนเท่านั้น เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ขณะที่ นางสาวกนกวรรณ ผู้ตายออกจากบ้าน เพื่อไปเก็บมะละกอริมลำธารดังกล่าว แต่ได้หายตัวไปอย่างผิดปกติ ต่อมาสามีและญาติๆ จึงได้ออกตามหา จนกระทั่งในเวลาประมาณ 17.00 น. ได้ไปพบมะละกอ และรองเท้าตกอยู่ริมลำธาร มีร่องรอยลื่นไถลของเท้า และบริเวณริมตลิ่งพบร่องรอยการต่อสู้ 2-3 จุด ในลักษณะคล้ายกับผู้ตายถูกปลุกปล้ำ สามีและญาติๆ จึงเดินตามหาไปตามลำธาร ปรากฏว่าไปพบผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในลำธารดังกล่าว โดยที่ปลายเท้าโผล่ออกมาจากพงหญ้า

จากการชันสูตรพลิกศพ พบรอยฟกช้ำที่บริเวณลำคอ คล้ายถูกบีบคอ ริมฝีปากแตก มีแผลถลอกที่หน้าท้อง โดยไม่สวมกางเกงชั้นใน ส่วนตะขอเสื้อชั้นในก็หลุดออกจากกัน เบื้องต้นสามี ญาติๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า นางสาวกนกวรรณ คงไม่ได้จมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากปริมาณน้ำในลำธารสูงประมาณเข่า หรือประมาณ 50 เซนติเมตรเท่านั้น จึงเชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมโหด โดยคนร้ายได้พยายามปลุกปล้ำ แต่เพราะนางสาวกนกวรรณ ขัดขืน จึงถูกบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะข่มขืนแล้วทิ้งศพไว้ในลำธารดังกล่าว

สำหรับหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้ต้องหารายนี้ก็คือ การเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐาน ที่ได้มาจากการส่งศพนางสาวกนกวรรณ ไปผ่าพิสูจน์ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งต่อมาแพทย์ระบุว่า ดีเอ็นเอของผู้ต้องหา ตรงกับเศษชิ้นส่วนเนื้อที่พบตรงเยื่อกระพุ้งแก้มของผู้เสียชีวิต และตรงกับน้ำอสุจิที่พบในช่องคลอดของผู้เสียชีวิตด้วย อีกทั้งเมื่อนำตัว นายวีระเดช มาตรวจสอบร่างกาย ก็พบร่องรอยบาดแผลที่ใต้ฝ่าเท้า และรอยขีดข่วนที่หน้าแข้ง

นอกจากนั้น อีกหลักฐานสำคัญก็คือ รองเท้าแตะ สีเขียว ซึ่งตกอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ 1 ข้าง ทั้งนี้ เมื่อนำมาให้ นายวีระเดช ผู้ต้องหา สวมใส่ ปรากฎว่าสวมใส่ได้พอดี ในขณะที่ นายพงศักดิ์ หรือ เอียด กาญจันดี ซึ่งเป็นอาของผู้ต้องหา ก็ให้การยืนยันต่อพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ว่า รองเท้าที่ตกอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ เป็นของนายวีระเดช หลานชายของตนเอง ที่มักจะสวมใส่อยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น นายวีระเดช ผู้ต้องหารายนี้ ยังคงให้ปฎิเสธว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ทั้งนี้ จากแนวทางของการสืบสวนสอบสวน พบว่า นายวีระเดช ผู้ต้องหารายนี้ จบการศึกษาแค่ระดับชั้น ป.6 และอ่านหนังสือไม่ออก โดยมีพฤติกรรมแปลกๆ คล้ายกับมีปัญหาด้านจิต เคยก่อเหตุลักขโมยเสื้อชั้นในและกางเกงในของผู้หญิงไปเก็บไว้ในบ้าน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุกับ นางสาวกนกวรรณแล้ว ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างรู้สึกหวาดผวากันเป็นอย่างยิ่ง จึงกดดันให้สะสางคดีนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด และเมื่อจับกุมตัวนายวีระเดช ก็ได้ร้องขอคัดค้านการประกันตัว เพราะผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในพื้นที่ซ้ำอีก