ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กมธ.ตรวจสอบเรื่องทุจริตฯตรวจโครงการสร้างถนนรอบพรุจิกภูเก็ต ระบุผลตรวจสอบขัดกับวัตถุประสงที่ผู้สร้างนำเสนอ บ้านเรือนประชาชนน้อย ขณะที่น้ำในพรุจิกเริ่มนำเสียเหตุไม่สามารถระบายถ่ายน้ำเข้าออกได้
นายประสาร มฤคพิทักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างถนนรอบพรุจิก ไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนว่าการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและไม่น่าจะถูกต้องว่า คงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งจะต้องมีการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาให้ข้อมูล เพื่อพิจารณาว่ามีการดำเนินการอนุญาตให้ก่อสร้างได้อย่างไร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาว่าด้วยพื้นชุ่มน้ำหรือแรมซาร์ไซต์
สำหรับโครงการการก่อสร้างถนนรอบพรุดังกล่าวเป็นโครงการขององค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว ซึ่งระบุวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อป้องกันการบุกรุกบอกแนวเขตที่ชัดเจน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของประชาชนในการสัญจรไปมาของประชาชนในพื้นที่ แต่เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างเข้าไปในพื้นที่พรุ ความจริงแล้วการบอกแนวเขตนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างถนนก็ได้ เพียงแต่ทำเป็นคันดินกั้นขึ้นมาก็ได้ เพราะถนนสายนี้ใช้งบประมาณสูงถึง 28 ล้านบาท
และจากข้ออ้างของ อบต.ที่บอกว่าเพื่อเป็นการสัญจรไปมาของประชาชนนั้นเท่าที่ตรวจสอบแล้วมีบ้านเรือนของประชาชนอยู่น้อยมาก และถนนสายนี้ก็จ่อไปยังพื้นที่ของเอกชนซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างโรงแรมอยู่ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อให้กับเอกชนหรือไม่อย่างไร ซึ่งก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายประสารกล่าวด้วยว่า ขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ นั้นก็จะมีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อตั้งกะทู้ถามในสภาฯ นอกจากนี้ก็จะได้มีการทำรายงานเสนอให้กับทางคณะกรรมาธิการฯชุดใหญ่ได้รับทราบ เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป
ด้าน นายศิวะศักย์ แนวจันทร์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ในส่วนของพรุจิกนั้นเป็นพื้นที่ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ตามอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำในระดับประเทศ ซึ่งขณะนี้ผลจากการสร้างถนนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบกับน้ำเข้า-ออกในพื้นที่พรุทำให้น้ำเริ่มเน่าเสีย ซึ่งเรื่องนี้ควรที่จะให้มีการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่พรุโดยเฉพาะลงมาตรวจสอบว่าพื้นที่ให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร และหากมีปัญหาจะหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร
ส่วนว่าจะมีการรื้อถอนถนนหรือไม่อย่างไรก็ต้องรอผลการลงมาตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าอย่างไร และหลังจากนั้นก็จะได้นำเสนอเรื่องเข้าสู่คณะกรรมาธิการชุดใหญ่พิจารณาและรับทราบอีกครั้ง