ตรัง - คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์สาวใหญ่ ชาวอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ทั้งๆ ที่ได้ล็อคกุญแจอย่างหนาแน่น ที่พวงมาลัย และเกียร์ อย่างแน่นหนาแล้ว
วันนี้ (8 ธ.ค.) ร.ต.อ.ประทีป อำพะวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุลักทรัพย์รถยนต์ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 79/1 ริมถนนสายตรัง-กระบี่ พื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และชุดสืบสวน รีบรุดไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ
โดยผู้เสียหายคือ นางพันธรัช จันดี อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย ให้การว่า ปกติในช่วงทุกๆ คืนที่ผ่านมา ตนเองจะนำรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บท-8312 สุราษฎร์ธานี สภาพค่อนข้างใหม่ มูลค่าประมาณ 3-4 แสนบาท มาจอดไว้ยังบริเวณหน้าบ้าน ก่อนเข้าไปหลับนอนพักผ่อนกันตามปกติ แต่ในคืนล่าสุดเมื่อตื่นเช้าขึ้นมากลับพบว่า รถกระบะได้สูญหายไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ระบุว่า คนร้ายรายนี้น่าจะแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ที่วนเวียนไปมาจนพลรถเป้าหมาย จึงได้ลงมือก่อเหตุ และเบื้องต้นไม่พบว่าจะมีคนใกล้ชิดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยรถกระบะคันที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ล็อคกุญแจอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะที่บริเวณพวงมาลัย และบริเวณเกียร์ แต่คนร้ายก็สามารถใช้ความชำนาญลงมือโจรกรรมไปได้สำเร็จ
วันนี้ (8 ธ.ค.) ร.ต.อ.ประทีป อำพะวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุลักทรัพย์รถยนต์ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 79/1 ริมถนนสายตรัง-กระบี่ พื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และชุดสืบสวน รีบรุดไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ
โดยผู้เสียหายคือ นางพันธรัช จันดี อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย ให้การว่า ปกติในช่วงทุกๆ คืนที่ผ่านมา ตนเองจะนำรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บท-8312 สุราษฎร์ธานี สภาพค่อนข้างใหม่ มูลค่าประมาณ 3-4 แสนบาท มาจอดไว้ยังบริเวณหน้าบ้าน ก่อนเข้าไปหลับนอนพักผ่อนกันตามปกติ แต่ในคืนล่าสุดเมื่อตื่นเช้าขึ้นมากลับพบว่า รถกระบะได้สูญหายไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ระบุว่า คนร้ายรายนี้น่าจะแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ที่วนเวียนไปมาจนพลรถเป้าหมาย จึงได้ลงมือก่อเหตุ และเบื้องต้นไม่พบว่าจะมีคนใกล้ชิดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยรถกระบะคันที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ล็อคกุญแจอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะที่บริเวณพวงมาลัย และบริเวณเกียร์ แต่คนร้ายก็สามารถใช้ความชำนาญลงมือโจรกรรมไปได้สำเร็จ
