“พงศพัศ” เข้าเยี่ยมอาการ “น้องมินท์” พบอาการดีขึ้น บอกอยากไปร่วมงานพิธีศพแม่และน้อง ขณะที่แพทย์อนุญาตให้ไปร่วมงานศพได้ แต่วอนสื่ออย่าซักถามเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพราะอาจกระทบกระเทือนสภาพจิตใจ ด้านคดีคาดส่งอัยการฟ้องผู้ต้องหาวันศุกร์นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 ต.ค.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เดินทางเข้าเยี่ยม ด.ญ.พิชญา หรือ “น้องมินท์” จงงามวิไล ที่ห้องผู้ป่วยใน ชั้น 7 โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยนำกระเช้าดอกไม้และตุ๊กตาหมีตำรวจ พร้อมลายเซ็นของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.มามอบให้
หลังจากเข้าไปพูดคุยสอบถามอาการของน้องมินท์ประมาณ 30 นาที พล.ต.ท.พงศพัศ เปิดเผยว่า ขณะนี้น้องมินท์มีอาการที่ดีขึ้น หน้าตายิ้มแย้มสดใส และบอกว่าอยากจะไปร่วมพิธีศพ และกราบศพนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ ผู้เป็นแม่ และน้องโช มาคิโน ที่วัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี และแพทย์ที่ดูแลอาการก็ได้อนุญาตให้น้องมินท์สามารถไปร่วมงานศพได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยากจะวอนสื่อมวลชนว่าอย่าซักถามถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพราะอาจกระทบกระเทือนสภาพจิตใจของน้องมินท์
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับศพของน้องโชนั้นได้รับการประสานจากทางสถานทูตญี่ปุ่นว่า ตกลงที่จะให้ตำรวจดำเนินการนำศพน้องโชไปประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมกับนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ ผู้เป็นแม่ที่วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี ในเย็นวันนี้ โดยในวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ และก็จะมีการฌาปนกิจในวันที่ 25 ต.ค.
“สำหรับในเรื่องทรัพย์สินของนางสุนันท์นั้น เท่าที่ได้พูดคุยกับพ่อกับป้าน้องมินท์ ก็ยินยอมที่จะให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้ติดตามดูแลเรื่องทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งทรัพย์สินก็จะตกเป็นของทายาทก็คือน้องมินท์ แต่เนื่องจากตัวน้องมินท์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทางพ่อกับป้าก็จะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน โดยทางตำรวจจะคอยกำกับดูแลอีกที ส่วนด้านคดีเท่าที่ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ก็ทราบว่าจะสามารถสรุบสำนวนส่งอัยการได้ภายในวันศุกร์นี้” พล.ต.ท.พงศพัศกล่าว
ด้าน นพ.วิทยา วันเพ็ญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า สำหรับอาการน้องมินท์ในขณะนี้นั้น ยังคงต้องคอยทำกายภาพบำบัดอยู่ เนื่องจากบาดแผลที่ข้อศอกซ้ายที่ผ่าตัดยังไม่หายดี โดยวันนี้ที่อนุญาตให้น้องมินท์ได้ไปร่วมงานศพนั้น เกิดจากความประสงค์ของน้องมินท์เองที่ต้องการจะไปร่วมงานศพ แต่จะมีทีมแพทย์ติดตามไปด้วย โดยหลังจากเสร็จงานศพแล้ว ก็จะให้น้องมินท์กลับมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลอีกสักระยะเพื่อดูเรื่องสภาพจิตใจ ถ้าหายเป็นปกติดีแล้วทางโรงพยาบาลจะให้กลับไปอยู่กับพ่อที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไป ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.พงศพัศ ได้พานายสมพงษ์ จงงามวิไล อายุ 47 ปี พ่อของน้องมินท์ และนางเครือวัลย์ ศรีสุวรรณ พี่สาวของนางสุนันท์ เดินทางไปที่แผนกนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อติดต่อขอรับศพน้องโช โดย พล.ต.ท.พงศพัศ เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้รับการหนังสือแสดงความยินยอมจากทางสถานทูตญี่ปุ่นมาว่า หลังเกิดเหตุทางการญี่ปุ่นได้พยายามติดต่อพ่อของน้องโชแล้ว แต่เนื่องจากพ่อของน้องโชได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่ ทำให้ไม่สามารถติดตามหาตัวได้ จึงให้ทางตำรวจประสานกับญาติที่ประเทศไทยติดต่อขอรับศพน้องโชไปบำเพ็ญกุศล
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะนำศพน้องโชใส่ถุงแล้วราดน้ำยา เพราะฉีดยาไม่ได้ เนื่องจากศพถูกหั่นทำให้ศพเส้นเลือดไม่ต่อกัน จากนั้นก็จะนำศพไปวางคู่กับศพนางสุนันท์ ผู้เป็นแม่ที่วัดอ่างศิลา จากนั้นในช่วงเย็นเวลา 18.00 น.ตนจะไปรับน้องมินท์ออกจากโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อไปร่วมพิธีศพของแม่กับน้องชายที่วัดอ่างศิลาตามความต้องการของน้องมินท์ด้วย
ด้าน นายสมพงษ์ จงงามวิไล พ่อของน้องมินท์กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุก็พูดคุยกับนางสุนันท์ อดีตภรรยา และน้องมินท์มาตลอด โดยตนรู้ว่านางสุนันท์กับลูกจะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิช่วง 22.00-23.00 น.ของวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งใจว่าจะมารับที่สนามบินเลย แต่นางสุนันท์เปลี่ยนใจบอกไม่ต้องมารับแล้วให้ไปเจอกันที่ จ.ชลบุรีเลย ตนจึงขับรถลงมาจาก จ.เชียงใหม่ มาถึง จ.ชลบุรี ช่วงเช้าวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งตนก็บอกนางสุนันท์ว่ามาถึงเมื่อไหร่ให้โทรศัพท์มาบอกตนด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น ส่วนนายสิริพงศ์ผู้ต้องหา นางสุนันท์เคยแนะนำให้รู้จักว่าเป็นเพื่อนเท่านั้น
นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า หลังจากน้องมินท์ออกจากโรงพยาบาลก็จะให้ไปอยู่กับตนที่เชียงใหม่ เพราะตอนแรกนางสุนันท์ตั้งใจจะพาน้องมินท์กับน้องโชมาฝากตนดูแลอยู่แล้ว ส่วนตัวนางสุนันท์ จะกลับไปดูแลร้านอาหารต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งตนก็เตรียมหาโรงเรียนให้ทั้งสองคนแล้ว โดยตั้งใจว่าจะให้น้องมินท์ เข้าเรียนที่โรงเรียนพระหฤทัย เชียงใหม่ ส่วนน้องโชตั้งใจว่าจะให้เข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ตนจะนำศพน้องโชไปไว้ที่วัดอ่างศิลาคู่กับศพนางสุนันท์ โดยจะสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะมีการฌาปนกิจพร้อมกันในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้
นางสมพงษ์กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้มาเยี่ยมน้องมินท์ และได้การประสานกับทางแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตใจของน้องมิ้นท์เป็นระยะ ซึ่งขณะนี้น้องมินท์มีสภาพจิตใจดีขึ้นมาก โดยช่วงที่ตนเฝ้าดูแลอาการของน้องมินท์ที่โรงพยาบาล น้องมิ้นท์เคยเล่าให้ฟังว่า ขณะอยู่ที่บ้านคนร้ายได้ฝันเห็นมารดามาบอกว่า ให้ไปอยู่กับตนเองที่เชียงใหม่
ด้าน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า วันนี้เกินทางมารับเอกสารเกี่ยวกับผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของศพน้องโช เพื่อจะนำไปประกอบสำนวนคดี ซึ่งขณะนี้เสร็จสิ้นไปประมาณ 90% แล้ว โดยหากสำนวนเสร็จเมื่อไหร่ก็จะส่งให้ ตร. ตรวจสอบก่อนนำส่งอัยการ ส่วนการสอบปากคำและแจ้งข้อหาเพิ่มกับนายสิริพงศ์เมื่อวานนี้นั้น เจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่มีความเครียดเล็กน้อย โดยนายสิริพงศ์ก็ให้การรับสารภาพในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ ส่วนต่างหูเพชร แหวนเพชร ที่ยังหาไม่เจอนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าอาจสูญหายหรือทำหล่นไป ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวน้องมินท์นั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า น้องมินท์อยู่ในความดูแลของตัวเอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 ต.ค.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เดินทางเข้าเยี่ยม ด.ญ.พิชญา หรือ “น้องมินท์” จงงามวิไล ที่ห้องผู้ป่วยใน ชั้น 7 โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยนำกระเช้าดอกไม้และตุ๊กตาหมีตำรวจ พร้อมลายเซ็นของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.มามอบให้
หลังจากเข้าไปพูดคุยสอบถามอาการของน้องมินท์ประมาณ 30 นาที พล.ต.ท.พงศพัศ เปิดเผยว่า ขณะนี้น้องมินท์มีอาการที่ดีขึ้น หน้าตายิ้มแย้มสดใส และบอกว่าอยากจะไปร่วมพิธีศพ และกราบศพนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ ผู้เป็นแม่ และน้องโช มาคิโน ที่วัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี และแพทย์ที่ดูแลอาการก็ได้อนุญาตให้น้องมินท์สามารถไปร่วมงานศพได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยากจะวอนสื่อมวลชนว่าอย่าซักถามถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพราะอาจกระทบกระเทือนสภาพจิตใจของน้องมินท์
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับศพของน้องโชนั้นได้รับการประสานจากทางสถานทูตญี่ปุ่นว่า ตกลงที่จะให้ตำรวจดำเนินการนำศพน้องโชไปประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมกับนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ ผู้เป็นแม่ที่วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี ในเย็นวันนี้ โดยในวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ และก็จะมีการฌาปนกิจในวันที่ 25 ต.ค.
“สำหรับในเรื่องทรัพย์สินของนางสุนันท์นั้น เท่าที่ได้พูดคุยกับพ่อกับป้าน้องมินท์ ก็ยินยอมที่จะให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้ติดตามดูแลเรื่องทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งทรัพย์สินก็จะตกเป็นของทายาทก็คือน้องมินท์ แต่เนื่องจากตัวน้องมินท์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทางพ่อกับป้าก็จะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน โดยทางตำรวจจะคอยกำกับดูแลอีกที ส่วนด้านคดีเท่าที่ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ก็ทราบว่าจะสามารถสรุบสำนวนส่งอัยการได้ภายในวันศุกร์นี้” พล.ต.ท.พงศพัศกล่าว
ด้าน นพ.วิทยา วันเพ็ญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า สำหรับอาการน้องมินท์ในขณะนี้นั้น ยังคงต้องคอยทำกายภาพบำบัดอยู่ เนื่องจากบาดแผลที่ข้อศอกซ้ายที่ผ่าตัดยังไม่หายดี โดยวันนี้ที่อนุญาตให้น้องมินท์ได้ไปร่วมงานศพนั้น เกิดจากความประสงค์ของน้องมินท์เองที่ต้องการจะไปร่วมงานศพ แต่จะมีทีมแพทย์ติดตามไปด้วย โดยหลังจากเสร็จงานศพแล้ว ก็จะให้น้องมินท์กลับมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลอีกสักระยะเพื่อดูเรื่องสภาพจิตใจ ถ้าหายเป็นปกติดีแล้วทางโรงพยาบาลจะให้กลับไปอยู่กับพ่อที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไป ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.พงศพัศ ได้พานายสมพงษ์ จงงามวิไล อายุ 47 ปี พ่อของน้องมินท์ และนางเครือวัลย์ ศรีสุวรรณ พี่สาวของนางสุนันท์ เดินทางไปที่แผนกนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อติดต่อขอรับศพน้องโช โดย พล.ต.ท.พงศพัศ เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้รับการหนังสือแสดงความยินยอมจากทางสถานทูตญี่ปุ่นมาว่า หลังเกิดเหตุทางการญี่ปุ่นได้พยายามติดต่อพ่อของน้องโชแล้ว แต่เนื่องจากพ่อของน้องโชได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่ ทำให้ไม่สามารถติดตามหาตัวได้ จึงให้ทางตำรวจประสานกับญาติที่ประเทศไทยติดต่อขอรับศพน้องโชไปบำเพ็ญกุศล
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะนำศพน้องโชใส่ถุงแล้วราดน้ำยา เพราะฉีดยาไม่ได้ เนื่องจากศพถูกหั่นทำให้ศพเส้นเลือดไม่ต่อกัน จากนั้นก็จะนำศพไปวางคู่กับศพนางสุนันท์ ผู้เป็นแม่ที่วัดอ่างศิลา จากนั้นในช่วงเย็นเวลา 18.00 น.ตนจะไปรับน้องมินท์ออกจากโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อไปร่วมพิธีศพของแม่กับน้องชายที่วัดอ่างศิลาตามความต้องการของน้องมินท์ด้วย
ด้าน นายสมพงษ์ จงงามวิไล พ่อของน้องมินท์กล่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุก็พูดคุยกับนางสุนันท์ อดีตภรรยา และน้องมินท์มาตลอด โดยตนรู้ว่านางสุนันท์กับลูกจะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิช่วง 22.00-23.00 น.ของวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งใจว่าจะมารับที่สนามบินเลย แต่นางสุนันท์เปลี่ยนใจบอกไม่ต้องมารับแล้วให้ไปเจอกันที่ จ.ชลบุรีเลย ตนจึงขับรถลงมาจาก จ.เชียงใหม่ มาถึง จ.ชลบุรี ช่วงเช้าวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งตนก็บอกนางสุนันท์ว่ามาถึงเมื่อไหร่ให้โทรศัพท์มาบอกตนด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น ส่วนนายสิริพงศ์ผู้ต้องหา นางสุนันท์เคยแนะนำให้รู้จักว่าเป็นเพื่อนเท่านั้น
นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า หลังจากน้องมินท์ออกจากโรงพยาบาลก็จะให้ไปอยู่กับตนที่เชียงใหม่ เพราะตอนแรกนางสุนันท์ตั้งใจจะพาน้องมินท์กับน้องโชมาฝากตนดูแลอยู่แล้ว ส่วนตัวนางสุนันท์ จะกลับไปดูแลร้านอาหารต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งตนก็เตรียมหาโรงเรียนให้ทั้งสองคนแล้ว โดยตั้งใจว่าจะให้น้องมินท์ เข้าเรียนที่โรงเรียนพระหฤทัย เชียงใหม่ ส่วนน้องโชตั้งใจว่าจะให้เข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ตนจะนำศพน้องโชไปไว้ที่วัดอ่างศิลาคู่กับศพนางสุนันท์ โดยจะสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะมีการฌาปนกิจพร้อมกันในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงนี้
นางสมพงษ์กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้มาเยี่ยมน้องมินท์ และได้การประสานกับทางแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตใจของน้องมิ้นท์เป็นระยะ ซึ่งขณะนี้น้องมินท์มีสภาพจิตใจดีขึ้นมาก โดยช่วงที่ตนเฝ้าดูแลอาการของน้องมินท์ที่โรงพยาบาล น้องมิ้นท์เคยเล่าให้ฟังว่า ขณะอยู่ที่บ้านคนร้ายได้ฝันเห็นมารดามาบอกว่า ให้ไปอยู่กับตนเองที่เชียงใหม่
ด้าน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า วันนี้เกินทางมารับเอกสารเกี่ยวกับผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของศพน้องโช เพื่อจะนำไปประกอบสำนวนคดี ซึ่งขณะนี้เสร็จสิ้นไปประมาณ 90% แล้ว โดยหากสำนวนเสร็จเมื่อไหร่ก็จะส่งให้ ตร. ตรวจสอบก่อนนำส่งอัยการ ส่วนการสอบปากคำและแจ้งข้อหาเพิ่มกับนายสิริพงศ์เมื่อวานนี้นั้น เจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่มีความเครียดเล็กน้อย โดยนายสิริพงศ์ก็ให้การรับสารภาพในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ ส่วนต่างหูเพชร แหวนเพชร ที่ยังหาไม่เจอนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าอาจสูญหายหรือทำหล่นไป ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวน้องมินท์นั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า น้องมินท์อยู่ในความดูแลของตัวเอง