พัทลุง – ผู้ประกอบการจังหวัดพัทลุง หันใช้บริการ “มดเอ็กซ์” เงินกู้ผ่อนรายวัน โดยบรรดาผู้ปล่อยเงินกู้รายวันต่างขยายตัวเติบโตอย่างคึกคัก ดอกเบี้ยเฉลี่ยแล้วร้อยละ 20 บาทขึ้นไป อีกทั้งเงินกู้ประเภทนี้กฎหมายควบคุมยากด้วย
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บรรดาผู้ปล่อยเงินกู้รายวันต่างขยายตัวเติบโตอย่างคึกคัก ถนนทุกสายในภายในตัวเมืองจรดไปถึงเขตชนบท จะพบรถมอเตอร์ไซค์ คนขับ 1 คน นั่งซ้อนท้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้า สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ ขับรถโดยความเร็ว ตามเก็บเงินรายวัน โดยในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา มีการขยายตัวเติบโตคึกคักมาก ตั้งแต่เกิดช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ แม่บ้านรายหนึ่ง หมู่ 3 บ้านด่านโลด เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ในเขตเทศบาล มีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ขายน้ำชา ขายเนื้อ ขายผัก ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ตลอดจนอาชีพอื่นๆ ต่างหันมาใช้บริการเงินกู้ผ่อนรายวัน หรือที่เรียกกันว่าการใช้บริการมดเอ็กซ์
“ให้กู้ 3,000 บาท จ่ายคืน 3,800 บาท และบางราย 4,000 บาท จ่ายคืนทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นวันละ 100 บาท โดยมีการทำสัญญาระบุว่าหากไม่จ่ายต้นและดอกเบี้ย จะทำการยึดและยกสิ่งของมีค่าทันที เช่น โทรทัศน์ พัดลม หม้อหุงข้าว รถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น”
นอกนั้น ยังรับจัดทำไฟแนนซ์ เช่น ซื้อรถมอเตอร์ไซด์ รถซาเล้ง รถแผงขายสินค้า และทองรูปพรรณ ตลอดจนสินค้าอื่นๆ โดยออกเงินให้ก่อนแล้วมาผ่อนชำระภายหลัง โดยเงินกู้ จำนวน 50,000 บาท จะต้องรับชำระผ่อนส่งทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น 65,000 บาท ภายในกำหนดระยะเวลา เท่ากับดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท
นายสม ปานหวาน พ่อค้าขายผัก ขายเนื้อ เปิดเผยว่า การใช้บริการเงินกู้ผ่อนรายวัน ของบรรดาพวกมดเอ็กซ์ ต่างได้รับความนิยมจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆ มากมาย โดยสามารถใช้บริการได้ทันทีและฉับไว มีการบริการที่ดีมาก แต่ทั้งผู้กู้ต้องมีเครดิตที่ดี มดเอ็กซ์ จะอำนวยความสะดวกบริการที่ดีมาก สามารถพึ่งพาแก้ไขปัญหาเรื่องการค้าได้ดีมาก
ผู้ปล่อยเงินกู้รายเดือนรายวันผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า การปล่อยเงินกู้นอกระบบ จะต้องดูแลลูกค้าจะต้องเป็นชั้นดี แม่ค้าขายสินค้าต่างๆ ต่างนิยมหันมาใช้บริการ และบางรายที่กู้เงินรายวันของมดเอ็กซ์ ได้หนีไปรายแล้วเพราะขาดกำลังส่งชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น บางรายวันละ 500 บาท
อย่างไรก็ตาม การปล่อยเงินกู้ประเภทนี้เมื่อก่อนนั้นได้รับนิยมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล การกู้เงินนี้ ดอกเบี้ยเฉลี่ยแล้วร้อยละ 20 บาทขึ้น ก่อนกู้ยืมต้องวิเคราะห์เสียก่อน ว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างไร และกฎหมายเองก็ควบคุมเข้าถึงยากด้วย
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บรรดาผู้ปล่อยเงินกู้รายวันต่างขยายตัวเติบโตอย่างคึกคัก ถนนทุกสายในภายในตัวเมืองจรดไปถึงเขตชนบท จะพบรถมอเตอร์ไซค์ คนขับ 1 คน นั่งซ้อนท้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้า สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ ขับรถโดยความเร็ว ตามเก็บเงินรายวัน โดยในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา มีการขยายตัวเติบโตคึกคักมาก ตั้งแต่เกิดช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ แม่บ้านรายหนึ่ง หมู่ 3 บ้านด่านโลด เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ในเขตเทศบาล มีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ขายน้ำชา ขายเนื้อ ขายผัก ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ตลอดจนอาชีพอื่นๆ ต่างหันมาใช้บริการเงินกู้ผ่อนรายวัน หรือที่เรียกกันว่าการใช้บริการมดเอ็กซ์
“ให้กู้ 3,000 บาท จ่ายคืน 3,800 บาท และบางราย 4,000 บาท จ่ายคืนทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นวันละ 100 บาท โดยมีการทำสัญญาระบุว่าหากไม่จ่ายต้นและดอกเบี้ย จะทำการยึดและยกสิ่งของมีค่าทันที เช่น โทรทัศน์ พัดลม หม้อหุงข้าว รถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น”
นอกนั้น ยังรับจัดทำไฟแนนซ์ เช่น ซื้อรถมอเตอร์ไซด์ รถซาเล้ง รถแผงขายสินค้า และทองรูปพรรณ ตลอดจนสินค้าอื่นๆ โดยออกเงินให้ก่อนแล้วมาผ่อนชำระภายหลัง โดยเงินกู้ จำนวน 50,000 บาท จะต้องรับชำระผ่อนส่งทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น 65,000 บาท ภายในกำหนดระยะเวลา เท่ากับดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท
นายสม ปานหวาน พ่อค้าขายผัก ขายเนื้อ เปิดเผยว่า การใช้บริการเงินกู้ผ่อนรายวัน ของบรรดาพวกมดเอ็กซ์ ต่างได้รับความนิยมจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆ มากมาย โดยสามารถใช้บริการได้ทันทีและฉับไว มีการบริการที่ดีมาก แต่ทั้งผู้กู้ต้องมีเครดิตที่ดี มดเอ็กซ์ จะอำนวยความสะดวกบริการที่ดีมาก สามารถพึ่งพาแก้ไขปัญหาเรื่องการค้าได้ดีมาก
ผู้ปล่อยเงินกู้รายเดือนรายวันผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า การปล่อยเงินกู้นอกระบบ จะต้องดูแลลูกค้าจะต้องเป็นชั้นดี แม่ค้าขายสินค้าต่างๆ ต่างนิยมหันมาใช้บริการ และบางรายที่กู้เงินรายวันของมดเอ็กซ์ ได้หนีไปรายแล้วเพราะขาดกำลังส่งชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น บางรายวันละ 500 บาท
อย่างไรก็ตาม การปล่อยเงินกู้ประเภทนี้เมื่อก่อนนั้นได้รับนิยมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล การกู้เงินนี้ ดอกเบี้ยเฉลี่ยแล้วร้อยละ 20 บาทขึ้น ก่อนกู้ยืมต้องวิเคราะห์เสียก่อน ว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างไร และกฎหมายเองก็ควบคุมเข้าถึงยากด้วย