พิจิตร – อัยการเผยหนี้นอกระบบไร้หลักฐานสาวถึงตัวนายทุน ชี้ส่วนใหญ่ใช้สัญญานักเลงแทนเอกสาร ทำให้เหยื่อเงินกู้เข้าโครงการแก้ปัญหาไม่ได้
นายวิศิษฐ์ ฉัตรศรีสุวรรณ อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการ จ.พิจิตร ผู้รับผิดชอบงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายกับประชาชน เปิดเผยภายหลังการออกหน่วยเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส 5 ธันวามหาราช เพื่อช่วยเหลือให้คำปรึกษาประชาชนที่มีปัญหาด้านข้อกฎหมาย
โดยเฉพาะเรื่องหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยโหดนอกระบบ ว่า การกู้ยืมเงินต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ ไว้เป็นสำคัญ และต้องระบุจำนวนเงินที่ก่อให้เกิดหนี้ รวมถึง วัน – เวลา –สถานที่ทำสัญญากู้เงิน ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญและจำเป็นที่จะนำมาใช้แสดงเพื่อเข้าโครงการขอกู้เงินจากธ.ก.ส. - ธนาคารออมสิน ตามโครงการให้กู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อนำไปใช้หนี้นอกระบบ
ขณะนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พวกแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดนอกระบบไม่มีการทำสัญญามอบให้ลูกหนี้มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพราะส่วนใหญ่จะใช้สัญญาลูกผู้ชายหรือสัญญานักเลงเช่นกู้เงิน 2,000 บาท ก็มีข้อตกลงให้ผ่อนชำระวันละ 100 บาทเป็นเวลา 24 วัน มีเพียงกระดาษหรือสมุดเล็กๆที่ใช้จดวัน – เวลา –จำนวนเงิน ที่พวกชายฉกรรจ์ขี่รถมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน็อค ที่มาเก็บก็ลงชื่อไว้เท่านั้น เหมือนโพยหวยใต้ดินที่จับได้แต่ตัวคนซื้อ ไม่มีหลักฐานสาวถึงตัวผู้ขาย เป็นต้น
ดังนั้นกลุ่มลูกหนี้นอกระบบส่วนใหญ่จึงไปเข้าโครงการไม่ได้ เพราะเอกสารไม่ครบ อีกทั้งเจ้าหนี้ก็ไม่ยอมไปปรากฏตัว ลูกหนี้บางรายไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่า เจ้าหนี้หรือนายทุนตัวจริงเป็นใคร รู้จักแต่ชายฉกรรจ์ขี่รถมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน็อค ที่เอาเงินมาให้กู้และเป็นผู้มาเก็บเงินเท่านั้น
นายวิศิษฐ์ บอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่มีเครดิตกับสถาบันการเงิน ต้องกู้เงินนอกระบบมานั้น ที่จริงแล้ว วงเงินต่อรายไม่มากนัก อาจจะเพียง 2-5 พันบาท แต่กู้หลายเจ้า บางคนอาจจะ 3-5-10 เจ้าก็มี ซึ่งมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและมาปรึกษา ซึ่งสนง.อัยการฝ่ายสคช.ก็ได้ให้คำแนะนำ ว่า ถึงแม้ตามกฎหมายจะฟ้องร้องไม่ได้ แต่ชาวบ้านก็กลัวศาลเตี้ยจึงให้ไปเจรจาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน จากนั้น สนง.อัยการฝ่ายสคช ก็จะเป็นคนกลางให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเป็นการยุติและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของชาวบ้านที่เป็นหนี้นอกระบบดังกล่าว