นราธิวาส – ทหารเรือสดุดีมอบเหรียญกล้าหาญพลทหารที่สู้อย่างมีศักดิ์ศรีเป็นวีรบุรุษตาแยะ ในเหตุการณ์ที่สามารถยิงหัวหน้า RKK ตายในสมรภูมิรบ พร้อมมอบเงินและพระเลี่ยมทองปลอบใจ
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ลานหน้ากองบังคับการ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณวีรบุรุษผู้กล้าที่ปฏิบัติหน้าที่สมเป็นชายชาติทหารเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของกองทัพเรือ ให้แก่ พลทหารชลทิตย์ สอนฆ้อง อายุ 22 ปี ตำแหน่งพลปืนเล็กกลผู้ช่วย หมวดปืนเล็กที่ 1 กองร้อยปืนเล็กที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งเป็นกำลังพลของกองทัพเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ในช่วงที่ น.ท.นึกอนันต์ แสนอุบล เป็น ผบ.ฉก.นราธิวาส 32
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.52 ที่ผ่านมา พลทหารชลทิตย์ พร้อม พ.จ.อ.เชิดศักดิ์ ดวงคำ หัวหน้าชุดคุ้มครองครู ฉก.นราธิวาส 32 และพวกรวม 9 นาย ซึ่งกำลังขี่รถจักรยานยนต์รวม 5 คัน ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยให้ชุดคุ้มครองครู ผ่านมาถึงบริเวณใกล้มัสยิดบ้านแยะ ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ได้ถูกกลุ่มคนร้ายประมาณ 7 คนแต่งกายเลียนแบบทหารพรานแบ่งกำลังเป็น 2 ชุดเดินเท้าสองฟากฝั่งถนน ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงเข้าใส่กำลังพล ฉก.นราธิวาส 32 ชุดดังกล่าว จนเกิดการยิงปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย
ทำให้ พลทหารอรุณ หมั่นลิเระ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และบาดเจ็บอีกหลายนาย รวมทั้งพลฯ ชลทิตย์ที่ถูกกระสุนของคนร้ายที่บริเวณช่องท้องและขาซ้ายรวม 8 นัด แต่ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นชายชาติทหารซึ่งมีเลือดนักรบจากภูมิลำเนาเกิด จ.สุพรรณบุรี พร้อมเพื่อนทหารซึ่งตั้งสติได้และยังมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม พร้อมกัดฟันสู้ยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายจนเป็นเหตุให้นายบัดโร เปาะกา หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติหารกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ก่อคดีวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านขายยาเขตเทศบาล ต.ยี่งอ รวมทั้งวางระเบิดดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่กองกำลัง อ.รือเสาะ รวมกว่า 7 คดี เสียชีวิต จนสมาชิกแนวร่วมในกลุ่มที่ก่อเหตุครั้งนั้นได้ตัดสินใจพากันหลบหนีเข้าป่าหลังหมู่บ้านในที่สุด
พิธีการครั้งนี้ ได้มี ผบ.ฉก.นราธิวาส หมายเลข 2 ตัวซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.นราธิวาส และปัตตานี รวมทั้งกำลังพลนาวิกโยธินเข้าร่วมพิธี ที่ขาดมิได้คือแรงใจสำคัญของพลฯ ชลทิตย์ คือนายจรูญ สอนฆ้อง ผู้เป็นบิดา โดยมารดาคือนางอนงค์ เสียชีวิตแล้ว ซึ่งพลฯ ชลทิตย์ มีพี่สาว 1 คน คือ น.ส.ประภัสสร สอนฆ้อง โดย น.อ.นิเวช ผบ.ฉก.นย.ทร.ยังได้มอบพระสมเด็จฯ เลี่ยมทองหนัก 2 บาทคล้องคอเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งเงินส่วนตัวช่วยเหลือแก่พลฯ ชลทิตย์
รวมทั้งเงินจากหน่วยงานต่างๆ และผู้ที่ชื่นชมในวีรกรรมรวมกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทหารกล้าและเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ทหารจากกองทัพเรือ ซึ่งพลฯ ชลทิตย์ ที่บาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมากบริเวณขาข้างซ้าย จนแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้องตัดสินใจตัดขาทิ้ง และใส่ขาเทียมจากประเทศเยอรมนีให้ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนสามารถเดินได้แต่ยังไม่ปกตินัก และในระหว่างนี้เป็นทหารนอกประจำการ ซึ่งต้นสังกัดได้ขอปูนบำเหน็จ 9 ขั้น เลื่อนชั้นยศเป็นเรือตรี และอยู่ในระหว่างรอรับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ เป็นวีรบุรุษผู้กล้าของบ้านตาแยะต่อไป
ทางด้าน น.อ.นิเวช กล่าวยกย่อง พลฯ ชลทิตย์ ต่อหน้ากำลังพลว่า ขอให้ทุกนายดูแบบอย่างของพลฯ ชลทิตย์ ที่เป็นทหารเลือดนักรบ ทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีของกองทัพเรือที่สามารถเด็ดชีพหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธ RKK ได้ 1 คน ในสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่มีใครอยากเห็นความสูญเสียของกำลังพล และถึงแม้โอกาสของความเสี่ยงและความภาคภูมิใจเฉกเช่นพลฯ ชลทิตย์ จะไม่ได้มีในทุกคนก็ตาม แต่เชื่อว่าทุกนายจะทำหน้าที่ชายชาตินักรบเพื่อปกป้องประเทศชาติและราชบัลลังก์โดยไม่ทิ้งกัน ที่ผ่านมายังไม่มียุทธวิธีการรบที่ใดที่สมศักดิ์ศรีเหมือนเช่นที่ บ้านแยะ อ.ยี่งออีกแล้ว
ด้านพลทหารชลทิตย์ กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยความตื้นตันใจว่า เป็นความภาคภูมิใจของตนและวงศ์ตระกูล และฝากไปยังทหารทุกนายที่ปฎิบัติงานอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ใช้สติเมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามโจรตี เพื่อขีดความสามารถที่จะตอบโต้คนร้ายได้ อาจลดความสูญเสียและไม่สูญเสียจะยิ่งดี และขอทหารรักประชาชนในพื้นที่ เพราะเขาคือคนไทยเช่นเรา เพื่อนำพาพื้นที่ให้เกิดความร่มเย็นและสันติสุขต่อไป