ระนอง - อินโดนีเซียออกกฎหมายประมงใหม่ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจมหรือเผาเรือต่างชาติที่ลักลอบเข้าทำประมง โดยไม่ต้องขึ้นศาล นายกสมาคมประมงระนองเตือนอย่ารุกล้ำน่านน้ำอย่างเด็ดขาด ระวังได้ไม่คุ้มเสีย
นายทวี บุญยิ่ง นายกสมาคมประมงระนอง เปิดเผยว่า รัฐสภาอินโดนีเซียได้ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประมงอินโดนีเซีย ตามที่กระทรวงกิจการทางทะเลและประมงอินโดนีเซียนำเสนอเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมทั้งสิ้น 43 มาตรา เป็นการเพิ่มใหม่ 21 มาตรา ยกเลิก 4 มาตรา และปรับปรุงแก้ไข 18 มาตรา
โดยประเด็นที่สำคัญยิ่ง คือ การกำหนดให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถทำลายเรือประมง โดยการเผาหรือจมเรือประมงทันทีที่มิใช่สัญชาติอินโดนีเซีย ที่เข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำอินโดนีเซียโดยผิดกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการตรวจค้นจับกุมและสืบสวนคดีด้านการประมง พบหลักฐานเบื้องต้นที่พอเพียงและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดกฎหมายจริง เพื่อเป็นการสร้างความหลาบจำให้กับเรือประมงอื่น ๆ
นายกสมาคมประมง กล่าวว่า กฎหมายประมงประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียฉบับปรับปรุงนี้ถือว่า มีความรุนแรงมาก และไม่เป็นสากลตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มากเกินไป ที่สามารถตัดสินคดีแทนศาลได้ ทำให้เจ้าของเรือประมงไม่สามารถที่จะสู้คดีในชั้นศาลได้
นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวยังได้กำหนดเพิ่มโทษอย่างหนักแก่ผู้ปลอมแปลงเอกสารใบอนุญาตต่าง ๆ และผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตทำธุรกิจประมง(SIUP) ใบอนุญาตจับสัตว์น้ำ(SIPI) และใบอนุญาตขนส่งสัตว์น้ำ(SIKPI) เป็นต้น จึงขอเตือนให้ชาวประมงอย่าได้ลักลอบเข้าไปทำประมงในน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซียอย่างเด็ดขาดเพราะจะได้ไม่คุ้มเสีย
นายกสมาคมประมงระนอง กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเรือประมงจากจังหวัดระนองเข้าไปทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซียน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเรือประมงจากจังหวัดสมุทร ปราการและจังหวัดสงขลาเข้าไปทำมากกว่า เรือประมงจากจังหวัดระนองส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทานทำประมงในน่านน้ำของประเทศพม่า
นายทวี บุญยิ่ง นายกสมาคมประมงระนอง เปิดเผยว่า รัฐสภาอินโดนีเซียได้ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประมงอินโดนีเซีย ตามที่กระทรวงกิจการทางทะเลและประมงอินโดนีเซียนำเสนอเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมทั้งสิ้น 43 มาตรา เป็นการเพิ่มใหม่ 21 มาตรา ยกเลิก 4 มาตรา และปรับปรุงแก้ไข 18 มาตรา
โดยประเด็นที่สำคัญยิ่ง คือ การกำหนดให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถทำลายเรือประมง โดยการเผาหรือจมเรือประมงทันทีที่มิใช่สัญชาติอินโดนีเซีย ที่เข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำอินโดนีเซียโดยผิดกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการตรวจค้นจับกุมและสืบสวนคดีด้านการประมง พบหลักฐานเบื้องต้นที่พอเพียงและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดกฎหมายจริง เพื่อเป็นการสร้างความหลาบจำให้กับเรือประมงอื่น ๆ
นายกสมาคมประมง กล่าวว่า กฎหมายประมงประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียฉบับปรับปรุงนี้ถือว่า มีความรุนแรงมาก และไม่เป็นสากลตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มากเกินไป ที่สามารถตัดสินคดีแทนศาลได้ ทำให้เจ้าของเรือประมงไม่สามารถที่จะสู้คดีในชั้นศาลได้
นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวยังได้กำหนดเพิ่มโทษอย่างหนักแก่ผู้ปลอมแปลงเอกสารใบอนุญาตต่าง ๆ และผู้ใช้เอกสารปลอมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตทำธุรกิจประมง(SIUP) ใบอนุญาตจับสัตว์น้ำ(SIPI) และใบอนุญาตขนส่งสัตว์น้ำ(SIKPI) เป็นต้น จึงขอเตือนให้ชาวประมงอย่าได้ลักลอบเข้าไปทำประมงในน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซียอย่างเด็ดขาดเพราะจะได้ไม่คุ้มเสีย
นายกสมาคมประมงระนอง กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเรือประมงจากจังหวัดระนองเข้าไปทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซียน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเรือประมงจากจังหวัดสมุทร ปราการและจังหวัดสงขลาเข้าไปทำมากกว่า เรือประมงจากจังหวัดระนองส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทานทำประมงในน่านน้ำของประเทศพม่า