ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงสงขลาตัดสินใจทำลายเรือทิ้ง 5 ลำ หลังจอดทิ้งมานาน เนื่องจากปัญหาน้ำมันราคาสูงขึ้น เพื่อประจานรัฐที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหา
ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุด ชาวประมงสงขลาตัดสินใจทำลายเรือประทิ้งไปแล้ว 5 ลำ โดยในวันนี้ (20 พ.ค.) บริเวณท่าเทียบเรือประมงอวนลากเล็กสะพานไม้ ท่าเทียบเรือประมงสงขลา เจ้าของเรือประมงอวนลากเล็ก จำนวน 5 ลำ ตัดสินใจทำลายเรือทิ้ง หลังประสบปัญหาขาดทุนจากพิษน้ำมันแพง และนำเครื่องยนต์ถอดขายเป็นเศษเหล็ก เนื่องจากไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลอย่างจริงจัง
หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนแบกรับภาระไม่ไหว ประกอบกับปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ ไม่คุ้มกับการลงทุนจึงต้องหยุดทำการประมง ในที่สุดจึงต้องใช้รถแบ็กโฮ ซึ่งเป็นรถขุด สข.1 จากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ทำการทุบทำลายเรือที่จอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออวนลากเล็กสะพานไม้ ท่าเทียบเรือประมงสงขลา ทั้ง 5 ลำ ส่วนที่เหลืออีก 16 ลำจะทยอยทำลายทิ้งในช่วงต่อไป เนื่องจากเรือทั้งหมดไม่สามารถนำออกไปทำการประมงได้อีกแล้ว
นายไสว เจยาคม ประธานกลุ่มเรือประมงอวนลากเล็กสะพานไม้ ท่าเทียบเรือประมงสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้เรือประมงขนาดเล็กในจังหวัดสงขลากว่า 50% จอดไปแล้ว เนื่องจากสู้ราคาน้ำมันแพงไม่ไหว บางส่วนก็ยอมเลิกอาชีพ และจมเรือทิ้ง โดยถอดเครื่องยนต์ขายเป็นเศษเหล็ก บริเวณท่าเรือตรงนี้มีเรือประมงที่จมเรือทิ้งทั้งหมด จำนวน 21 ลำ เจ้าของเรือประมงได้เลิกอาชีพหันไปประกอบอาชีพอื่นหมดแล้ว ต่างหมดตัวไปตามๆ กัน เรือที่ทำลายไปวันนี้ 5 ลำ
ส่วนที่เหลืออีก 16 ลำ ก็จะทยอยทำลายจนหมดเพื่อไม่ให้เป็นภาระกีดขวางกับเรืออื่นๆ ที่เข้ามาจอดที่ท่าเรือแห่งนี้ ยังมองอนาคตของชาวประมงเราไม่ออกว่า ต่อไปจะต้องเจอกับอะไรอีก เพราะชาวประมงไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ช่วยเหลือชาวประมงเลย
