ระนอง - ทหาร ฉก.ร.25 พัน 2 พร้อมตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนอง นำกำลังกว่า 30 นายเข้าตรวจสอบแรงงานเถื่อนชาวพม่า 144 คน หลังผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.จ.ป.ร.นัดทำบัตรอนุญาตให้ทำงานได้ 3 เดือนเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 300 บาท ภายหลังนโยบายเปิดขึ้นทะเบียนของรัฐบาลเสร็จสิ้น
พ.อ.ทิม เรือนโต เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธรา สรนารักษ์ สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระนอง นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ที่อาคารเอนกประสงค์ บ้านคลองจั่นพัฒนา หมู่ 8 ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง
หลังทราบว่า กำลังมีการสำรวจ และทำบัตรรับรองให้แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชาย และหญิง จำนวน 144 คน ซึ่งขณะทำการตรวจสอบอยู่นั้น ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 70 คน เข้ามาสังเกตการณ์ และพูดจาโวยวาย เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้จับกุมแรงงานต่างด้าว
จากการสอบถามนายสุนทร ทองยอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ทราบว่า ตนพร้อมด้วยชุดรักรักษาความเรียบร้อยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.)ได้ทำการสำรวจข้อมูลแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านทั้งหมด เพื่อให้ทราบจำนวนที่แน่ชัด เป็นการจัดระเบียบ เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแล พร้อมทั้งมีการถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวรับรองการสำรวจ
ระบุชื่อ แรงงานต่างด้าว นายจ้าง ที่อยู่นายจ้าง และระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่ในหมู่บ้านเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน พร้อมลงชื่อผู้สำรวจในบัตรไว้ด้วย โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมหัวละ 300 บาท โดยเงินที่ได้จะนำเอาไปพัฒนา และจัดกิจกรรมภายในหมู่บ้าน
พ.อ.ทิม เรือนโต เสนาธิการหน่วย ฉก.ร 25 กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน และดูรายละเอียดในบัตรแล้ว ถือว่ามีเจตนาดี แต่โดยหลักแล้วกระทรวงมหาดไทยได้ให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 เมื่อได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็ต้องเข้ามาตรวจสอบ และพูดคุยให้ชาวบ้านได้เข้าใจ เนื่องจากหน่วยทหารต้องดูแลในเรื่องของความมั่นคง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ด้าน พ.ต.ท.ธรา สรนารักษ์ สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระนอง กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้เปิดให้ขึ้นทะเบียน และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กรกาคม 2552 ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ตกค้างไม่ได้ขึ้นทะเบียนนั้น
ฝ่ายปกครองต้องนำเสนอรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 144 คน ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถละเว้นกฎหมายได้ ต้องควบคุมตัวไปทำทะเบียนประวัติตามขั้นตอนของกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ขณะที่ ตัวแทนชาวบ้านคลองจั่นพัฒนา กล่าวว่า พวกตนมีความตั้งใจที่จะทำบัตรอนุญาตทำงานให้แรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง แต่เมื่อทำไปแล้วทำงานได้ประมาณ 10 วัน แรงงานพม่าก็หนีไปพวกตนก็เสียเงินเปล่าเพราะต้องเสียค่าใช้จ่าย 3,800 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน
พวกตนประกอบอาชีพทำสวนมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเพียง 3 เดือนเท่านั้นเนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงเก็บผลผลิตกาแฟ หากไม่มีแรงงานต่างด้าวก็ไม่มีคนเก็บ ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย ขอให้ทางราชการเห็นใจด้วย พวกตนไม่มีเจตนาใช้แรงงานผดกฎมายแต่อย่างใด
