นครบาลแถลงจับคนร้ายก่อเหตุชิงทอง ร้านห้างเพชรทองอึ้งเฮงหลี หลังตำรวจบุกรวบตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิดนครสวรรค์ สารภาพก่อเหตุเพราะตกงาน หาเงินใช้หนี้นอกระบบ เที่ยวและซื้อยาบ้าเสพ ขณะที่ “วิชัย” ผบก.น.1 ฉุนถูกขโมยผลงาน
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. แถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายอนุกูล สวนบ่อแร่ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1หมู่ 4 ต.บางแก้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางทองรูปพรรณ 17 เส้น อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 อีก 5 นัด เสื้อยืดคอวีสีฟ้า 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว รองเท้าผ้าใบยี่ห้อพูม่า สีดำ 1 คู่ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน ษคธ-585 กรุงเทพมหานคร และหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีดำ 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่บ้านเกิดของผู้ต้องหา
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 23 ต.ค.52 เวลาประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ทองรูปพรรณภายในห้างเพชรทองอึ้งเฮงหลี บริเวณหน้าห้างแม็คโคร สาขาลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 16 บาท มูลค่ากว่า 200,000 บาท ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย และนำภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ จนกระทั่งมีพลเมืองดีโทรศัพท์เข้ามาแจ้งเบาะแสที่โครงการสายลับพันหน้าของ บก.น.1 และประสานไปที่ สน.นางเลิ้ง ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายอนุกูล เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.อนุรักษ์ พิมพ์พา สว.สส.สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง จึงรายงาน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ก่อนเดินทางไปบ้านพักของผู้ต้องหาที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้ทำการตรวจค้นจนพบของกลางและจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สน.ลาดพร้าว
จากการสอบสวนนายอนุกูลให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นพนักงานจัดเรียงสินค้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ ย่านลาดพร้าว 18 แต่ถูกไล่ออกเพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับพนักงานในห้าง จากนั้นก็ออกมาทำงานรับจ้างทั่วไปได้ค่าแรงวันละ 200 บาท ก่อนเกิดเหตุตนกำลังตระเวนหาที่สมัครงานโดยพกปืนที่ได้มาจากเพื่อนที่ จ.อุทัยธานี ติดตัวไปด้วย เพราะคิดที่จะก่อเหตุเพื่อนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบจำนวน 30,000 บาท แต่ไม่ได้วางแผนหรือมาสังเกตการณ์ล่วงหน้า
“บังเอิญผมขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปถึงร้านทองที่เกิดเหตุและสังเกตเห็นว่าร้านนี้ไม่มีคนผ่านพลุกผ่านเหมือนที่อื่น อีกทั้งพนักงานยังเป็นผู้หญิงจึงตัดสินใจเข้าก่อเหตุทันที ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผมได้โดยมีลักษณะคล้ายคนขาเป๋นั้น ผมปกติดี เพียงแต่กางเกงที่ใส่ตัวใหญ่และผมรีบเดินจึงทำให้ดูคล้ายคนขาเป๋ ซึ่งหลังจากก่อเหตุผมก็หลบหนีตามเส้นทางเดิมที่ขับมาและนำทองไปขายทั้งหมด 9 เส้น นำเงินไปใช้หนี้ เที่ยวเตร่ และซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อนจะหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิดและถูกจับกุมตัวในที่สุด” นายอนุกูลกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผบก.น.1 และ ผบก.น.4 ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าว เนื่องจากเหตุขัดแย้งเนื่องจาก บก.น.1 รู้สึกถูกขโมยผลงานการจับกุมครั้งนี้ไปแถลงข่าว โดย สน.ลาดพร้าว ทำหน้าที่แค่สอบสวนผู้ต้องหา และขอหมายจับเท่านั้น ก่อนที่ บก.น.4 จะรายงานให้ ผบช.น.เพื่อแถลงข่าว ภายหลังจาก บก.น.1 จับกุมมาแล้ว เป็นเหตุ ผบก.น.1 กล่าวว่า “คนทำไม่ได้ดี แต่คนไม่ได้ทำกลับมานำเสนอ”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.น.4 ซึ่งพล.ต.ต.สมวุฒิ ได้ปฏิเสธที่จะชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยกล่าวเพียงสั้นๆว่าไม่เกี่ยวข้องกับตนและเรื่องดังกล่าวเป็นคนละพื้นที่กัน บก.น.4 ไม่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามต้องให้ผู้บังคับบัญชาสน.เป็นผู้ชี้แจง
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าวไม่ได้เป็นผู้แสดงตัวว่าเป็นผลงานของสน.ลาดพร้าว แต่อย่างใด เพียงแต่ทำหน้าที่ออกหมายจับให้กับทางสน.นางเลิ้ง ที่ได้เบาะแสของคนร้าย และหลังจากที่ได้ตัวคนร้ายมาแล้วสน.ลาดพร้าวในฐานะเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบคดีดังกล่าวก็มีหน้าที่สอบสวนผู้ต้องหาและนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวต่อว่า หลังจากที่สน.นางเลิ้งนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาส่งที่สน.ลาดพร้าว พนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำ ก่อนจะรายงานไปยัง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.จริงตามที่เป็นข่าว แต่รายงานเพียงแค่ว่าตัวผู้ต้องหาและของกลางอยู่ที่สน.ลาดพร้าว แต่สน.นางเลิ้งของบก.น.1เป็นผู้จับกุม จะให้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปแถลงที่สน.นางเลิ้งหรือไม่ ทางผบช.น.บอกว่าคดีดังกล่าวเป็นเหตุสะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน ให้นำไปแถลงที่ บช.น. ตนจึงประสานไปยัง ผกก.สน.นางเลิ้ง ในฐานะชุดจับกุมให้เป็นผู้ไปแถลงข่าว แต่ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้ง หรือบก.น.1 ไปแต่อย่างใด ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุ
“การจับกุมดังกล่าวเป็นผลงานของ สน.นางเลิ้ง พื้นที่ บก.น.1 ผมต้องขอบคุณสน.นางเลิ้ง ที่จับกุมตัวคนร้ายมาได้ ร้านทองก็ยังฝากขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจของบก.น.1 มีความสามารถอย่างมาก แต่ผบช.น.บอกให้นำผู้ต้องหาและของกลางไปที่ บช.น.เราก็ต้องฟังผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ว่าจะไปแถลงข่าวเอง ผมขอยืนยันว่าไม่มีตำรวจของสน.ลาดพร้าวคนใดไปก้าวก่ายหรือต้องการแย่งผลงานเลย แม้แต่บันทึกจับกุมก็มอบให้สน.นางเลิ้งเป็นผู้จัดพิมพ์ และไม่ได้มีความขัดแย้งกัน แต่อาจจะเป็นเหตุเข้าใจผิด” พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าว
ต่อมาเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าวคุมตัว นายอนุกูล สวนบ่อแร่ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่ร้านเกิดเหตุห้างเพชรทองอึ้งเฮงหลี บริเวณหน้าห้างแม็คโคร สาขาลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหากลับไปคุมขังและสอบสวนเพิ่มเติ่มต่อ