ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “บริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด” ในเครือ ธนาสิริ กรุ๊ป ขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มาภูเก็ต ยึดทำเลทองย่านป่าคลอกประเดิมโครงการหลายร้อยล้านบาท หวังเจาะตลาดระดับกลางถึงบน มั่นใจตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังไปได้สวย
นายสิทธิศักดิ์ ทาระปัญญา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (TPD) เปิดเผยถึงการเข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ว่า บริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะเข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ภูเก็ตและภาคใต้โดยเฉพาะ โดยได้เริ่มขยายการลงทุนเข้ามายังต่างจังหวัดที่ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก เนื่องจากบริษัทมองเห็นศักยภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตที่มีการเติบโตที่ดี จึงได้ตัดสินใจขยายการลงทุนเข้ามาภูเก็ตเมื่อปี 2551
เริ่มต้นด้วยการเข้ามาเทกโอเวอร์โครงการบ้านสวนเนรมิต ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มาพัฒนาต่อภายใต้โครงการ “ไพร์มเพลส เนรมิต-อนุสาวรีย์” จำนวน 43 ยูนิต มูลค่าโครงการ 138 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวภูเก็ต บริษัทจึงได้ขยายโครงการอื่นๆ ต่อไปอีก และจากการสำรวจของบริษัทพบว่าคนภูเก็ตมีความต้องการบ้านเดี่ยวชั้นเดียว แต่สามารถจอดรถได้จำนวน 2 คัน ประกอบทำเลบริเวณบ้านป่าคลอกได้กลายเป็นทำเลทองในการลงทุนบ้านจัดสรรในขณะนี้ เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางในการเดินทางเข้าเมือง ไปสนามบิน และไปยังหาดเชิงทะเล เป็นต้น
บริษัทจึงได้ขยายโครงการเพิ่มเป็น“ไพร์มพลส เนรมิต-อนุสาวรีย์” ส่วนขยายเฟส 1 เป็นอาคารพาณิชย์และทาวน์โฮม บนเนื้อที่ 4 ไร่ โดยแบ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตรและ 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 218 ตารางเมตร จำนวน 9 ยูนิต และทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 177 ตารางเมตร 26 ยูนิต มูลค่าโครงการ 85 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ในส่วนของอาคารพาณิชย์ลูกค้าจองหมดแล้ว ในขณะที่ทาวน์โฮมกำลังจะเปิดขายในเร็วๆนี้ และจะมีการลงทุนในส่วนต่อขยายเฟส 2 บนเนื้อที่ 15 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 72 ยูนิต มูลค่าโครงการ 191 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้บริษัทได้ก่อสร้างไปแล้วทุกเฟส โดยเฉพาะเฟสต่อส่วนขยายที่ 2 ได้มีการก่อสร้างไปแล้ว 12 ยูนิต และทั้ง 12 ยูนิตมีความคืบหน้าไปกว่า 80%
นายสิทธิศักดิ์ เผยอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้บริษัทมีโครงการที่จะขยายการลงทุนอีก 2 เฟส คือ โครงการบ้านชมเขา ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลเดียวกันโดยด้านหลังของบ้านสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้อย่างสวยงาม โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5-6 ล้านบาท จำนวน 12 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 72 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 80 ห้อง มูลค่าโครงการอยู่ที่ 80 ล้านบาท ที่จะดำเนินการในปีหน้า โดยคอนโดมิเนียมนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานบริษัท โรงแรม เพราะราคาที่ประมาณการไว้จะไม่เกิน 1 ล้านบาท
“บริษัทจะพัฒนาโครงการที่ไม่ใหญ่มากนัก โดยเฉลี่ยเนื้อที่ประมาณ 15-20 ไร่ และอายุโครงการโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ปี เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบายในการสร้างบ้านแบบกึ่งสั่งสร้าง ซึ่งในเฟสแรกจะมีการก่อสร้างบ้านเสร็จก่อนขายร้อยละ 60-70%และในเฟสต่อๆไปเป็นแบบตามยอดขาย การเปิดขายเป็นไปพร้อมๆกับการก่อสร้าง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นแบบบ้านและวัสดุก่อสร้างที่บริษัทใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ”
นายสิทธิศักดิ์ สำหรับโครงการบ้านจัดสรรที่บริษัทดำเนินการในภูเก็ต จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน แต่ก็ไม่ทิ้งลูกค้าในระดับล่าง เพราะบริษัทมองว่าตลาดภูเก็ตยังมีช่องว่างของตลาด ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างตลาดระดับล่างกับตลาดระดับกลางอยู่ บริษัทจึงได้ตั้งราคาบ้านแฝดไว้ที่ 2 ล้านกว่าบาท เพื่อเจาะกลุ่มตลาดนี้ และมีบ้านราคาที่สูงกว่านี้เพื่อรองรับลูกค้าระดับกลางขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดระดับบน บริษัทก็มีโครงการที่จะลงทุนเช่นกันในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีหน้า เพราะขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่ไว้พร้อมแล้วจำนวน 100 ไร่ ที่ตำบลกมลา ตั้งอยู่ด้านหลังของภูเก็ตแฟนตาซี โดยโครงการนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่เป็นคนต่างชาติ เพราะราคาขายจะอยู่ที่หลังละ 20 ล้านบาทขึ้นไปและอยู่ในทำเลที่เหงียบสงบ ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟสๆ โดยเฟสแรกจะพัฒนาในพื้นที่ 10 ไร่ก่อน
นายสิทธิศักดิ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตว่า ตลาดอสังหาฯในภูเก็ตถือว่าเป็นตลาดที่ดีที่สุดในขณะนี้หากไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามาส่งผลกระทบ และที่ผ่านมาเมื่อที่ผลกระทบด้านลบตลาดอสังหาฯภูเก็ตก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทใหญ่ๆด้านอสังหาฯในกรุงเทพฯ เข้ามาลงทุนในภูเก็ตหลายบริษัทแล้วในขณะนี้
การเข้ามาของบริษัทใหญ่ๆจากส่วนกลางเป็นการสร้างทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกบ้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยจะดูทั้งในส่วนของทำเลที่ตั้ง การบริการช่วงการขาย การดูแลจัดการหลังการขายมากขึ้น จากจุดนี้ทำให้ทางบริษัทมั่นใจถึงศักยภาพการทำตลาดอสังหาฯในภูเก็ตว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี แม้ว่าจะมีการแข่งขันที่สูงก็ตามทั้งจากบริษัทใหญ่จากส่วนกลางและบริษัทในท้องถิ่นภูเก็ตเอง