ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงตรวจสอบพื้นที่พรุจิก ต.ไม้ขาว จ.ภูเก็ต หลังชาวบ้านร้อง อบต.ไม้ขาวสร้างถนนรุกขอบพรุจิก
วันนี้ (5 พ.ย.) คณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย นายวารุจ ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เดินทางลงพื้นที่พรุจิก ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริงกรณีมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องการสร้างถนนบริเวณขอบพื้นที่พรุจิก ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าเป็นการบุกรุกพรุจิก และขุดท่อนำน้ำทิ้งออกจากบริเวณพรุจิก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรุจิกอันเป็นสมบัติส่วนรวมของตำบลไม้ขาวและมีความสำคัญระดับชาติได้
นายวารุจ ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีการสร้างถนนบริเวณขอบพื้นที่ป่าพรุจิก ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ตว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เนื่องจากนางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งกับคณะกรรมาธิการฯว่ามีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการสร้างถนนบริเวณขอบพรุจิก ว่า จะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางคณะกรรมาธิการได้มีการพิจารณารายละเอียดไปแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งการลงพื้นที่ก็เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง แต่ยังคงไม่สามารถที่จะสรุปได้โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดไปเข้าที่ประชุมกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ กรรมาธิการจะดำเนินการอย่างเต็มที่ แม้ว่าการก่อสร้างจะดำเนินการแล้วเสร็จก็ตาม ก็ต้องหาผู้ออกมารับผิดชอบ โดยเฉพาะหากพบว่ามีการทำผิดจริงก็มีแนวทางการในการดำเนินการอยู่แล้ว นายวารุจ กล่าว
ขณะที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ รองประธานกรรมาธิการ กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการบุกรุกจริง เนื่องจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่า เดิมพรุจิกมีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ต่อมาเหลือ 77 ไร่ และปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 70 ไร่ ซึ่งทางกรรมาธิการจะต้องไปดูรายละเอียดข้อมูลเอกสารเพิ่มเติมอีกครั้ง รวมถึงจะต้องดูว่าในทำโครงการมีการประชาคมหรือไม่ และมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร มีการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไรตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปี 2546 รวมถึงข้อเท็จจริงอื่นๆ ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้ฝากทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวไว้แล้วว่า อยากให้พรุจิกเป็นพรุสุดท้ายที่มีการบุกรุก เนื่องจากในพื้นที่ของ จ.ภูเก็ต ยังมีพรุอีกหลายแห่ง ซึ่งถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำหรือแรมซาร์ไซต์ จึงอยากให้มีการช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ไว้ เพราะเชื่อว่าในอนาคตจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ นอกเหนือจากหาดทรายชายทะเลที่มีอยู่ และหากพบว่ามีการบุกรุกจะแก้ไขอย่างไรทางกรรมาธิการ จะมีคำแนะนำประกอบ ส่วนกรณีที่ยังมีการบุกรุกอยู่นั้น ทางกรรมาธิการจะหามาตรการในการหยุดยั้ง โดยมีเครื่องมือที่สามารถทำได้
เช่น การรายงานต่อรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ รายงานต่อ ป.ป.ช.กรณีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไม่เอาใจใส่ กรณีมีความผิดเกี่ยวกับการใช้เงินก็แจ้งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ เป็นต้น ขอให้สบายใจได้ว่ากรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างแท้จริง นายริศ กล่าว
ขณะที่ นายสราวุธ สีสาคูคาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดสร้างถนนดังกล่าว ว่า การจัดทำถนนดังกล่าวมีความยาวประมาณ 3 กม.พร้อมด้วยไฟฟ้าแสงสว่าง ใช้งบก่อสร้างประมาณ 28 ล้านบาท เพื่อเป็นการป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากเดิมพรุแห่งนี้มีพื้นที่มากถึง 100 ไร่ แต่ปัจจุบันที่มีการประกาศเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเหลือพื้นที่พรุเพียง 77 ไร่