นครศรีธรรมราช - คลื่นถล่มแหลมตะลุมพุกนครศรี-โรงเรียนจมน้ำทะเล นร.สนุกหยุดเรียนไล่จับปู-ปลา เขตเทศบาลปากพนัง จมน้ำเจอเขื่อนปล่อยน้ำเหนือ-ทะเลหนุนส่วนหัวไทรวิกฤต คลื่นเซาะบ้านตลอดแนว 3 ตำบล-เสียหาย 363 หลัง
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มในหลายอำเภอ เช่น ลานสกา เชียรใหญ่ เมือง ท่าศาลา สิชล ซึ่งปริมาณน้ำส่วนใหญ่เป็นน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักไม่สามารถระบายได้ทัน ขณะเดียวกัน มีน้ำป่าจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลสมทบลงมาบางส่วนส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่างเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ทำให้การระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยเป็นไปอย่างล่าช้า
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ได้รับกระทบสูงสุด อันเนื่องมาจากลมมรสุมที่พัดกระหน่ำเข้าสู่อ่าวไทย ทำให้พื้นที่ชายฝั่งนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในอำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร อยู่ในสภาพวิกฤติจากคลื่นลมแรง และฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในอำเภอปากพนังนั้นพบว่าในพื้นที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนังหมู่บ้านชาวประมงใน ม.2, ม.3 ต้องหยุดทำการประมงอย่างสิ้นเชิง นำเรืออพยพขึ้นมาให้ไกลจากชายหาดคลื่นได้ซัดโถมเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้น้ำทะเลท่วมหมู่บ้าน บ่อเลี้ยงปูดำ ปลาดุกทะเล ปลากะพงขาว และพัดพาเอาทราย เปลือกหอยจำนวนมากมากองทับถมบางจุดน้ำทะเลได้ท่วมโอ่งน้ำสำหรับบริโภคทำให้น้ำเพื่อการบริโภคขาดแคลน โดยที่ยังไม่ได้รับการช่วยใดๆ
ขณะเดียวกัน โรงเรียนวัดแหลมตะลุมพุก ได้ถูกน้ำทะเลพัดเข้าท่วมขังเต็มพื้นที่โรงเรียนจนต้องประกาศหยุดเรียน นักเรียนที่หยุดเรียนนั้นต่างเดินออกมาเล่นน้ำทะเลจับกลุ่มกันไล่จับปูดำ ปูแพ และปลาทะเลหลายชนิดที่ถูกคลื่นหอบเข้ามาว่ายอยู่ในสนามของโรงเรียนและในบริเวณวัดแหลมตะลุมพุกถูกน้ำทะเลพัดเข้าท่วมจนเต็มพื้นที่ กันอย่างสนุกสนาน
นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าสภาพน้ำทะเลที่เข้าท่วมในวันนี้ค่อนข้างสาหัสมากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะชุมชนประมงพื้นบ้านแหลมตะลุมพุกใน ม.2 ม.3 ใกล้กับวัดแหลมตะลุมพุก ทั้งหมดต้องหยุดทำการประมง ขณะเดียวกัน ทางการได้เรียกประชุมเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือในส่วนของบ่อปลา บ่อปู ที่เสียหาย
ในเขตเทศบาลเมืองปากพนัง นายชัยณรงค์ สวัสดีนฤนาท นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัยออกช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากน้ำทะเลได้หนุนสูง ปแระกอบกับได้มีการเปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปากพนังที่ไหลผ่านตัวเมืองปากพนังทั้งปากพนักฝั่งตะวันตกและปากพนังฝั่งตะออกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำได้ไหล่บ่าเข้าท่วมเขตเทศบาลทำให้ชาวบ้านต้องอพยพสิ่งของทรัพย์สินหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่น
ส่วนในพื้นที่อำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้มีรายงานด่วนไปยังสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยสรุปตัวเลขของบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นที่พัดกระหน่ำตลอดแนวชายฝั่งของอำเภอหัวไทรใน 3 ตำบล คือ ตำบลเกาะเพชร ตำบลหัวไทร ตำบลหน้าสตน บ้านเรือนของประชาชน ได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจากการกัดเซาะบางส่วนสูงถึง 363 หลังคาเรือน