สตูล - เรือประมงพื้นบ้าน อ.ละงู จ.สตูลกว่า 600 ลำและเรือท่องเที่ยวประสบปัญหาล่องน้ำ 3 สายสำคัญตื่นเขินจนยากจะสัญจร-ไปมา สร้างความยากลำบากในการประกอบอาชีพและความเสียหายในการขนส่งสัตว์น้ำขึ้นฝั่ง ในขณะที่กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีเร่งสำรวจช่วยเหลือเป็นการด่วน
วันนี้ (3 พ.ย. ) การตกตะกอนของดินทำให้ล่องน้ำในคลองสายสำคัญอย่างคลองลิดี ที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และคลองบาโรย 1.5 กิโลเมตร และยังมีล่องน้ำอ่าวนุ่น ใน อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของชาวประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก และขนาดกลาง รวมทั้งเรือท่องเที่ยว เรือเบ็ด กว่า 600 ลำที่ใช้เส้นทางเลี้ยงชีพและสัญจรไปมาต่อวัน ไม่สามารถแล่นผ่านได้สะดวก เนื่องจากล่องน้ำที่ตื้นเขินสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่นำสัตว์น้ำจากท้องทะเลส่งขายไม่ทันเวลาทำให้ต้องเสียหาย เนื่องด้วยต้องรอระดับน้ำขึ้นสูงจึงจะนำเรือเข้าเทียบท่านำสัตว์น้ำขึ้นฝั่งได้
ในเรื่องนี้ นายจำรัส ฮ่องสาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละงู อ.ละงู จ.สตูล พร้อมนายมานพ คงสุข นายช่างขุดลอก ชำนาญงาน ศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 (ตรัง) กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ลงเรือสำรวจล่องน้ำที่ชาวประมงพื้นบ้านและนักท่องเที่ยวใช้แล่นผ่าน เพื่อเตรียมนำไปจัดทำแผนในการขุดลอกคลองที่ตื้นเขินเพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน
นายมานพ คงสุข นายช่างขุดลอก ชำนาญงาน ศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 (ตรัง) กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี บอกว่า โดยปกติทุก 4-5 ปี ล่องน้ำเหล่านี้จะมีตะกอนของดินไหลลงมาทำให้เกิดความตื้นเขิน ทำให้การสัญจรไปมาของเรือไม่สะดวก และต้องรอหลายชั่วโมงจนกว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจึงจะแล่นเรือไปได้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ได้เล็งเห็นความสำคัญและจะเร่งในการให้ความช่วยเหลือด้วยการขุดลอกล่องน้ำในคลองดังกล่าว ซึ่งในปลายปีนี้คาดว่าจะสามารถขุดลอกล่องน้ำได้ก่อนในเส้นล่องน้ำคลองลิดี ส่วนเส้นทางอื่น จะเร่งเสนอแผนพิจารณาและแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
สำหรับล่องน้ำคลองลิดี คลองบาโรย และอ่าวนุ่น ชาวประมงพื้นที่ใน ต.ละงู 9 หมู่บ้าน และยังมี ต.ปากน้ำ อ.ละงู อีกบางส่วนที่ใช้ประโยชน์และได้รับความเดือดร้อนจากล่องน้ำตื้นเขินในการทำประมงพื้นบ้าน และใช้เป็นล่องน้ำในการหลบลมมรสุมในยามเกิดพายุเข้าเพื่อลดความเสียหายของชาวประมงพื้นบ้าน