สุราษฎร์ธานี - สถานการณคลื่นถล่มชายฝั่ง และน้ำท่วมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดขยายพื้นที่เป็นวงกว้างสร้างความเสียหายให้ 3 อำเภอแล้ว ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ขณะที่จังหวัดเตรียมประกาศให้เป็นเขตประสบภัยพิบัติ
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 11.00 น. นายสมศักดิ์ จังตระกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 7 กว่า 100 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก และคลื่นทะเลที่มีความสูงกว่า 2 เมตร พัดถล่มพื้นที่หมู่บ้านชาวประมงใน อ.ท่าชนะ อ.ไชยา และ อ.ดอนสัก บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 3 หลัง เสียหายบางส่วนกว่า 30 หลัง ถนนสายริมทะเลถูกน้ำทะเลกัดเซาะเสียหาย จำนวน 3 แห่ง อวนจับปลา และเสาหลักหอยแมลงภู่เสียหายกว่า 50,000 หลัก
นายสมศักดิ์ จังตระกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้สรุปความเสียหายเบื้องต้นขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และคลื่นพัดถล่มชายหาด จำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ดอนสัก อ.ท่าชนะ และ อ.ไชยา เตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
ส่วนสภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.สุราษฎร์ธานี ท้องฟ้ามืดครึ้มสลับกับฝนตกเป็นบางช่วง ส่วนท้องทะเลมีคลื่นลมแรง บางช่วงคลื่นสูง 3-4 เมตร และล่าสุดมีเรือสปีดโบต สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า ซึ่งจอดเทียบท่าไว้ ถูกคลื่นซัดมาขึ้นฝั่งที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้ประกอบการประกาศหยุดเดินเรือท่องเที่ยวระหว่างเกาะเป็นการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด
