สุราษฎร์ธานี - คลื่นยักษ์สูงเกือบ 3 เมตรพัดเข้าถล่มหลายหมู่บ้านชาวประมงที่สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อบจ.สุราษฎร์ธานี เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เร่งสำรวจความเสียหายช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก และคลื่นลมจัดในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีความสูงเกือบ 3 เมตร พัดถล่มหมู่บ้านชาวประมงพื้นที่ ม.3 บ้านหาดสมบูรณ์, ม.4 บ้านท่าม่วง ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังแล้ว จำนวน 26 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 31 ม.4 ต.วัง ของนางสมจินต์ ภัทรมณี อายุ 54 ปี ถูกน้ำกัดเซาะได้รับความความเสียหายทั้งหลัง
หลังเกิดเหตุนายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจความเสียหาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกระสอบทราย จำนวน 2,000 ถุง เรือท้องแบน จำนวน 4 ลำ เข้าพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นวันนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีกส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งได้รับความเสียหายหนักขึ้น และเจ้าหน้าที่ยังพบว่าน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ได้ไหลบ่าเข้าท่วมถนนทางเข้าวัดถ้ำศิลาเตียบ ม.5 ต.วัง ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ทำให้พระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก และคลื่นลมจัดในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีความสูงเกือบ 3 เมตร พัดถล่มหมู่บ้านชาวประมงพื้นที่ ม.3 บ้านหาดสมบูรณ์, ม.4 บ้านท่าม่วง ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังแล้ว จำนวน 26 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 31 ม.4 ต.วัง ของนางสมจินต์ ภัทรมณี อายุ 54 ปี ถูกน้ำกัดเซาะได้รับความความเสียหายทั้งหลัง
หลังเกิดเหตุนายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจความเสียหาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกระสอบทราย จำนวน 2,000 ถุง เรือท้องแบน จำนวน 4 ลำ เข้าพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นวันนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอีกส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งได้รับความเสียหายหนักขึ้น และเจ้าหน้าที่ยังพบว่าน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ได้ไหลบ่าเข้าท่วมถนนทางเข้าวัดถ้ำศิลาเตียบ ม.5 ต.วัง ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ทำให้พระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้
