นครศรีธรรมราช – ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชแจ้ง 3 ข้อหาชาวจีนแก๊งลักเด็ก "ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ พรากผู้เยาว์ และพยายามกักขังหน่วงเหนี่ยว" ส่วน พ.ร.บ.การค้ามนุษย์นั้นไม่สามารถเอาผิดได้เนื่องจากไม่ครบองค์ประกอบ
วันนี้ (2 พ.ย.) กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากประชาชนในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการฉุดกระชากพยายามจับเด็กหญิง 2 คนขึ้นรถตู้ และชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ ซึ่งคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้นทราบชื่อคือนาง ZHOU MEIXIANG อายุ 62 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน แผ่นกระดาษเขียนข้อความขอเรี่ยไร่เงินรักษาโรคมะเร็งให้กับลูก 1 ฉบับ เงินไทยแบบเหรียญชนิด 10 บาท หลายร้อยเหรียญ ชนิด 20 บาท จำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตามไปค้นห้องพักเลขที่ 411 โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงแรมที่นาง ZHOU MEIXIANG เข้าพัก พบว่ามีชายชาวจีนอีกคนทราบชื่อคือ นาย HUANG CHUANFA อายุ 63 ปี ค้นในกระเป๋าพบหลักฐานการเดินทางเข้าพักในโรงแรมต่างๆ หลายจังหวัดในทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่นอุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา กทม. กระบี่ สุราษฎร์ธานี
และมีผู้เสียหายคือ ด.ญ.สมฤทัย ภักษา อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.ลาลิต้า ละหมัด อายุ 7 ขวบ ยืนยันว่านาง ZHOU MEIXIANG เป็นคนฉุดกระชากพยายามบังคับให้ไปเรี่ยไรเงินและมัดมือพยายามลากขึ้นรถโดยที่ผู้ที่มาเที่ยวในสวนสาธารณะช่วยเหลือไว้ได้ ส่วนรถตู้นั้นได้ขับหายไป ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่าได้มีการสอบปากคำเด็กในเบื้องต้นนั้น สรุปได้ว่าเด็กนั้นเล่นเตร็ดเตร่อยู่แล้วหญิงชาวจีนรายนี้ได้บังคับให้เรี่ยไร่เงินในทำนองเป็นโรคร้ายและพยายามมัดมือฉุดกระชากในลักษณะที่เด็กนั้นร้องห่มร้องไห้ จนกระทั่งมีการแจ้งมายังโรงพักจนตำรวจเข้าไปคุมตัว
“ในเรื่องของรถตู้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเด็กยืนยันว่าเป็นรถตู้ป้ายแดงคล้ายกับรถตู้รับส่งนักเรียนจอดอยู่ตรงข้ามกับจุดที่ชาวบ้านช่วยไว้ ซึ่งมีการยืนยันเช่นนั้นเราได้ใช้เป็นข้อมูลในการติดตาม ดูการเดินทางนั้นผู้ต้องหาเดินทางเกือบทั่วประเทศ ตรวจสอบไปทางภาคอีสานพบว่ามีพฤติกรรมใกล้เคียง คือออกเตร็ดเตร่ทำตัวเป็นคนใบ้แล้วอ้างว่าเป็นโรคร้ายโดยการติดป้ายแล้วเตร็ดเตร่ขอเงินตามแหล่งชุมชนต่างๆ
และยังพบข้อมูลของการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆกับประเทศไทย เช่น มาเลเซีย เดินทางเข้าออกมาแล้วบ่อยครั้งตอนนี้กำลังออกหนังสือประสานกับทุกจังหวัดรวมทั้งในเขตนครศรีธรรมราชเองว่ามีเด็กหายบ้างหรือไม่ แต่ยังไม่แจ้งกลับมา มีหลายเดือนที่ผ่านมาพบว่ามีรายเดียวที่เคยถูกพาขึ้นรถตู้แล้วไปทิ้งไว้ในจังหวัดตรัง ซึ่งครั้งนั้นได้ตัวกลับมา ส่วนการเดินทางเข้ามาในประเทศนั้นพนักงานสอบสวนกำลังติดตามว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร"
พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของการตั้งข้อหานั้นได้แจ้งข้อหากับนาง ZHOU MEIXIANG เพียงคนเดียวเนื่องจากตัวสามีนั้นไม่สามารถเอาผิดได้ เพียงแค่ตรวจยึดหลักฐานบางส่วนที่เกี่ยวข้อง
ส่วนนาง ZHOU MEIXIANG นั้นได้แจ้ง 3 ข้อหาคือ 1.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ 2.พรากผู้เยาว์ 3. พยายามกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนความผิด พ.ร.บ.การค้ามนุษย์นั้นไม่ครบองค์ประกอบไม่สามารถเอาผิดได้ สำหรับการสอบสวนเด็กนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสอบปากคำเด็กแล้ว
นายส่วง พุทธโกสินทร์ อายุ 54 ปี รปภ.ประจำสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 เปิดเผยว่า ช่วงที่ชาวบ้านได้จับกุมตัวหญิงชาวจีนรายนี้ไว้ได้นั้น เด็กกำลังร้องไห้ ชาวบ้านอยู่กันเป็นจำนวนมากเห็นเหตุการณ์กันหลายคน ซึ่งโชคดีที่ชาวบ้านช่วยเด็กไว้ได้ก่อนแจ้งตำรวจมาคุมตัวเกือบโดนชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์เสียด้วยซ้ำ
วันนี้ (2 พ.ย.) กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากประชาชนในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการฉุดกระชากพยายามจับเด็กหญิง 2 คนขึ้นรถตู้ และชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ ซึ่งคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้นทราบชื่อคือนาง ZHOU MEIXIANG อายุ 62 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน แผ่นกระดาษเขียนข้อความขอเรี่ยไร่เงินรักษาโรคมะเร็งให้กับลูก 1 ฉบับ เงินไทยแบบเหรียญชนิด 10 บาท หลายร้อยเหรียญ ชนิด 20 บาท จำนวนมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตามไปค้นห้องพักเลขที่ 411 โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงแรมที่นาง ZHOU MEIXIANG เข้าพัก พบว่ามีชายชาวจีนอีกคนทราบชื่อคือ นาย HUANG CHUANFA อายุ 63 ปี ค้นในกระเป๋าพบหลักฐานการเดินทางเข้าพักในโรงแรมต่างๆ หลายจังหวัดในทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่นอุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา กทม. กระบี่ สุราษฎร์ธานี
และมีผู้เสียหายคือ ด.ญ.สมฤทัย ภักษา อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.ลาลิต้า ละหมัด อายุ 7 ขวบ ยืนยันว่านาง ZHOU MEIXIANG เป็นคนฉุดกระชากพยายามบังคับให้ไปเรี่ยไรเงินและมัดมือพยายามลากขึ้นรถโดยที่ผู้ที่มาเที่ยวในสวนสาธารณะช่วยเหลือไว้ได้ ส่วนรถตู้นั้นได้ขับหายไป ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่าได้มีการสอบปากคำเด็กในเบื้องต้นนั้น สรุปได้ว่าเด็กนั้นเล่นเตร็ดเตร่อยู่แล้วหญิงชาวจีนรายนี้ได้บังคับให้เรี่ยไร่เงินในทำนองเป็นโรคร้ายและพยายามมัดมือฉุดกระชากในลักษณะที่เด็กนั้นร้องห่มร้องไห้ จนกระทั่งมีการแจ้งมายังโรงพักจนตำรวจเข้าไปคุมตัว
“ในเรื่องของรถตู้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเด็กยืนยันว่าเป็นรถตู้ป้ายแดงคล้ายกับรถตู้รับส่งนักเรียนจอดอยู่ตรงข้ามกับจุดที่ชาวบ้านช่วยไว้ ซึ่งมีการยืนยันเช่นนั้นเราได้ใช้เป็นข้อมูลในการติดตาม ดูการเดินทางนั้นผู้ต้องหาเดินทางเกือบทั่วประเทศ ตรวจสอบไปทางภาคอีสานพบว่ามีพฤติกรรมใกล้เคียง คือออกเตร็ดเตร่ทำตัวเป็นคนใบ้แล้วอ้างว่าเป็นโรคร้ายโดยการติดป้ายแล้วเตร็ดเตร่ขอเงินตามแหล่งชุมชนต่างๆ
และยังพบข้อมูลของการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆกับประเทศไทย เช่น มาเลเซีย เดินทางเข้าออกมาแล้วบ่อยครั้งตอนนี้กำลังออกหนังสือประสานกับทุกจังหวัดรวมทั้งในเขตนครศรีธรรมราชเองว่ามีเด็กหายบ้างหรือไม่ แต่ยังไม่แจ้งกลับมา มีหลายเดือนที่ผ่านมาพบว่ามีรายเดียวที่เคยถูกพาขึ้นรถตู้แล้วไปทิ้งไว้ในจังหวัดตรัง ซึ่งครั้งนั้นได้ตัวกลับมา ส่วนการเดินทางเข้ามาในประเทศนั้นพนักงานสอบสวนกำลังติดตามว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร"
พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของการตั้งข้อหานั้นได้แจ้งข้อหากับนาง ZHOU MEIXIANG เพียงคนเดียวเนื่องจากตัวสามีนั้นไม่สามารถเอาผิดได้ เพียงแค่ตรวจยึดหลักฐานบางส่วนที่เกี่ยวข้อง
ส่วนนาง ZHOU MEIXIANG นั้นได้แจ้ง 3 ข้อหาคือ 1.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ 2.พรากผู้เยาว์ 3. พยายามกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนความผิด พ.ร.บ.การค้ามนุษย์นั้นไม่ครบองค์ประกอบไม่สามารถเอาผิดได้ สำหรับการสอบสวนเด็กนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการสอบปากคำเด็กแล้ว
นายส่วง พุทธโกสินทร์ อายุ 54 ปี รปภ.ประจำสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 เปิดเผยว่า ช่วงที่ชาวบ้านได้จับกุมตัวหญิงชาวจีนรายนี้ไว้ได้นั้น เด็กกำลังร้องไห้ ชาวบ้านอยู่กันเป็นจำนวนมากเห็นเหตุการณ์กันหลายคน ซึ่งโชคดีที่ชาวบ้านช่วยเด็กไว้ได้ก่อนแจ้งตำรวจมาคุมตัวเกือบโดนชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์เสียด้วยซ้ำ