นครศรีธรรมราช - ตร.นครศรีธรรมราชรวบแก๊งลักเด็กชาวจีนบังคับเรี่ยไรเงินที่ทางเข้าสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ก่อนมัดมือลากขึ้นรถตู้ชาวบ้านเห็นช่วยรอดหวุดหวิด-พบหลักฐานเดินสายทั่วประเทศ รถตู้เผ่นหาย-หวิดโดนประชาทัณฑ์เด็กยันมีรายอื่นอยู่ในรถอีกหลายคน
วันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 1 พ.ย.2552 ศูนย์วิทยุ “เมืองนคร” สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากชาวบ้านย่านชุมชนมะขามชุม ทางเข้าสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีคนร้ายพยายามลากเด็กขึ้นรถตู้ แต่ญาติเด็กและผู้ที่มาเที่ยวในสวนสาธารณะเห็นเหตุการณ์สามารถช่วยเด็กไว้ได้รวม 2 ราย และคุมตัวผู้หญิงชราที่ พยายามลากเด็กขึ้นรถไว้ได้ 1 คน จากนั้นจึงวิทยุแจ้งกับ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง พร้อมด้วยสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เข้าทำการตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านได้คุมตัวหญิงชราไว้ 1 ราย และหวิดจะถูกรุมประชาทัณฑ์เจ้าหน้าที่จึงเข้าคุมตัวและกันชาวบ้านก่อนเข้ารุมทำร้ายไว้ได้อย่างหวุดหวิด จากนั้นจึงคุมตัวมาสอบสวนเบื้องต้นยังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งเชิญตัวผู้ปกครองให้นำตัวเด็กผู้เสียหายที่ถูกหญิงดังกล่าวพยายามฉุดลากขึ้นรถมายืนยันตัว โดยผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.สมฤทัย ภักษา อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ พร้อมด้วยผู้ปกครองซึ่งเป็นบิดาคือนายสมัย ภักษา อายุ 30 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ซ.หมอพจน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และ ด.ญ.ลาลิต้า ละหมัด อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงค์ และผู้ปกครองซึ่งเป็นบิดาเช่นกันคือนายไพโรจน์ ละหมัด อายุ 33 ปี อยู่ 5/26 ถนนมะขามชุม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าให้ปากคำยืนยันตัวในเบื้องต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ค้นตัวของหญิงชราคนดังกล่าวซึ่งไม่ยอมพูดจาใดๆ กับเจ้าหน้าที่พบหนังสือเดินทางระบุชื่อ นาง ZHOU MEIXIANG อายุ 62 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน แผ่นกระดาษเขียนข้อความขอเรี่ยไร่เงินรักษาโรคมะเร็งให้กับลูก 1 ฉบับ เงินไทยแบบเหรียญชนิด 10 บาท หลายร้อยเหรียญ ชนิด 20 บาท จำนวนมาก และไม่ยอมที่จะพูดจาใดพยายามส่งสัญญาณมือว่าพูดไม่ได้ และเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า นาง ZHOU MEIXIANG พักอยู่ที่โรงแรมเพชรไพลิน ถ.ยมราช ต.คลัง ที่ห้องหมายเลข 411 เจ้าหน้าที่จึงไปทำการตรวจสอบพบชายชาวจีนอยู่ภายในอีก 1 คน จึงเชิญตัวมาสอบสวนทราบชื่อระบุในหนังสือเดินทางคือ นาย HUANG CHUANFA อายุ 63 ปี ค้นในกระเป๋าพบหลักฐานการเดินทางเข้าพักในโรงแรมต่างๆหลายจังหวัดในทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่นอุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา กทม.กระบี่ สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
ขณะที่ ด.ญ.สมฤทัย และ ด.ญ.ลาลิต้า ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่อย่างสอดคล้องกันว่าก่อนเกิดเหตุนั้นได้เดินเที่ยวอยู่บริเวณทางเข้าสวนสาธารณะ โดยมีญาติๆได้ไปหาของเก่าในที่ทิ้งขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เจอกับหญิงคนดังกล่าวลงจากรถตู้เดินมาหาพร้อมทั้งจูงมือและทำมือบอกว่าพูดไม่ได้ และให้ถือแผ่นกระดาษที่มีข้อความเรี่ยไรเงินให้กับผู้ที่มาเที่ยวในสวนสาธารณะ แต่ได้พยายามที่จะสะบัดมือหนีปรากฏว่าหญิงคนนี้ได้จับมือไว้แน่นมากจนดิ้นไม่หลุด จนร้องไห้ และได้มัดมือติดกับ ด.ญ.ลาลิต้า พยายามที่จะลากขึ้นรถตู้สีขาว ซึ่งเห็นชัดว่ามีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ตอนหน้า และมีเด็กอีกหลายคนนั่งอยู่ในรถ แต่มีลุงของ ด.ญ.ลาลิต้ามาเห็นเหตุการณ์ หญิงคนนั้นจึงแก้เชือกออกและปล่อยตนเองและ ด.ญ.ลาลิต้า ไปโดยที่หญิงคนนั้นขึ้นรถไม่ทันรถตู้ได้ขับหนีออกไป
นายสมัย ภักษา อายุ 30 ปี บิดาของ ด.ญ.สมฤทัย เปิดเผยว่า เครือญาติ หลายคนหาของเก่าอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ โชคดีที่มีคนเห็นเหตุการณ์และวิ่งมาบอก ตนเองจึงได้ออกไปตามหาลูกจนพบและเห็นว่าหญิงคนนั้นยังเดินอยู่ในย่านนั้นเนื่องจากไปไหนไม่ถูกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาคุมตัวไว้ได้ และพยายามกันไว้เพราะชาวบ้านย่านนั้นจะประชาทัณฑ์เนื่องจากมีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ไม่เช่นนั้นคงได้รับบาดเจ็บแน่นอน และถือเป็นความโชคดีที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นพวกขโมยเด็กข้ามชาติหรือไม่
พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ติดต่อล่ามมาพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้งสอง หลักฐานที่เราพบนั้นชัดเจนในข้อหาเบื้องต้นคือ 1.ข่มขืนใจให้ผู้อื่นปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตาม 2.ข้อหาพรากผู้เยาว์ ส่วนในการค้ามนุษย์นั้นยังไม่ครบองค์ประกอบของความผิด
“อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนั้นทราบข้อมูลผ่านล่ามว่านาย HUANG CHUANFA ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ รวมทั้งรถตู้ที่เด็กยืนยันนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้เรื่อง แต่จากหลักฐานที่ปรากฏนั้นเชื่อได้ว่าทั้งสองคนเกี่ยวข้องกันและพักห้องเดียวกัน ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลตามขั้นตอนรวมทั้งประส่านงานกับจังหวัดที่มีข้อมูลว่าทั้งสองเดินทางไปว่ามีเด็กหายหรือไม่อย่างไรเพื่อเป็นข้อมูลขยายผลอีกครั้ง” สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าว