นราธิวาส - ผบ.ทร.ปลอบขวัญกำลังพลนาวิกโยธินภาคใต้ กำชับห้ามสร้างเงื่อนไขกับชาวบ้านในพื้นที่ เน้นแก้ปัญหาไฟใต้ด้วยยุทธศาสตร์กระแสพระราชดำรัสในหลวง
วันนี้ (26 ต.ค.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.เดินทางพร้อมด้วย พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และคณะ ไปยังกองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียน มอบเงินบำรุงขวัญและวัตถุมงคลแก่กำลังพลนาวิกโยธินในพื้นที่รับผิดชอบ 5 อำเภอของ 2 จังหวัด
คือ อ.เมือง อ.ยี่งอและ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รวมทั้ง อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี โดยมี นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ และ ผบ.ชุดเฉพาะกิจ 5 อำเภอ รวมทั้งกำลังพลกว่า 500 นายให้การต้อนรับ บริเวณสนามลานอเนกประสงค์ กองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ฯ
พล.ร.อ.กำธร ผบ.ทร.ได้กล่าวมอบนโยบายพอสรุปใจความว่า ขอขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เป็นตัวแทนที่ดีของกองทัพเรือ ที่ผ่านมายุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา นำมาปฏิบัติแล้วทำให้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก และคงน้อมนำเป็นนโยบายต่อเนื่องของปี 2553 ด้วยเช่นกัน เพราะทำให้เข้าใจชาวบ้านและรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดและเป็นการเข้าถึงประชาชนอย่างยั่งยืน
สำหรับ ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดี จะใช้ยุทธวิธีการรบเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องยึดพื้นที่ด้วยการได้ใจของชาวบ้านเป็นสำคัญ ทำให้คนในพื้นที่มีความปลอดภัย รักและเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ได้ โดยต้องระมัดระวังอย่าไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดกับชาวบ้านอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจจะเป็นการสร้างปัญหาเกิดขึ้นได้
ในส่วนการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกๆ วันนั้น เพื่อความไม่ประมาทขอให้ทหารทุกนายมีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความรัดกุมมากขึ้นเพื่อเป็นการลดความสูญเสียของกำลังพล ในส่วนใกล้ช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดทำแผน ในการรักษาความปลอดภัยให้ กับครู นักเรียน และโรงเรียน ให้รัดกุมเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของการบำรุงขวัญก็เป็นนโยบายหนึ่งที่ พล.ร.อ.กำธร ผบ.ทร.เน้นย้ำ โดยได้เปิดเผยว่า ทั้งกำลังพลและครอบครัวที่อยู่ห่างไกล จะมีการเพิ่มสวัสดิการเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายยิ่งขึ้น เป็นการตอบแทนที่หัวหน้าครอบครัวเสียสละในการลงมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันก็ขอให้คนในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบซึ่งทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน มีความรักความสามัคคีและสมานฉันท์ เพราะสิ่งนี้จะทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบสุขในที่สุด และก่อนที่จะเดินทางกลับ ผบ.ทร.ได้เข้าประชุมลับที่ห้องประชุมภายในค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ รับทราบข้อขัดข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรับผิดชอบทั้ง 5 อำเภออีกด้วย
วันนี้ (26 ต.ค.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.เดินทางพร้อมด้วย พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และคณะ ไปยังกองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียน มอบเงินบำรุงขวัญและวัตถุมงคลแก่กำลังพลนาวิกโยธินในพื้นที่รับผิดชอบ 5 อำเภอของ 2 จังหวัด
คือ อ.เมือง อ.ยี่งอและ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รวมทั้ง อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี โดยมี นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ และ ผบ.ชุดเฉพาะกิจ 5 อำเภอ รวมทั้งกำลังพลกว่า 500 นายให้การต้อนรับ บริเวณสนามลานอเนกประสงค์ กองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ฯ
พล.ร.อ.กำธร ผบ.ทร.ได้กล่าวมอบนโยบายพอสรุปใจความว่า ขอขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เป็นตัวแทนที่ดีของกองทัพเรือ ที่ผ่านมายุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา นำมาปฏิบัติแล้วทำให้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก และคงน้อมนำเป็นนโยบายต่อเนื่องของปี 2553 ด้วยเช่นกัน เพราะทำให้เข้าใจชาวบ้านและรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดและเป็นการเข้าถึงประชาชนอย่างยั่งยืน
สำหรับ ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดี จะใช้ยุทธวิธีการรบเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องยึดพื้นที่ด้วยการได้ใจของชาวบ้านเป็นสำคัญ ทำให้คนในพื้นที่มีความปลอดภัย รักและเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ได้ โดยต้องระมัดระวังอย่าไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดกับชาวบ้านอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจจะเป็นการสร้างปัญหาเกิดขึ้นได้
ในส่วนการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกๆ วันนั้น เพื่อความไม่ประมาทขอให้ทหารทุกนายมีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความรัดกุมมากขึ้นเพื่อเป็นการลดความสูญเสียของกำลังพล ในส่วนใกล้ช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดทำแผน ในการรักษาความปลอดภัยให้ กับครู นักเรียน และโรงเรียน ให้รัดกุมเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของการบำรุงขวัญก็เป็นนโยบายหนึ่งที่ พล.ร.อ.กำธร ผบ.ทร.เน้นย้ำ โดยได้เปิดเผยว่า ทั้งกำลังพลและครอบครัวที่อยู่ห่างไกล จะมีการเพิ่มสวัสดิการเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายยิ่งขึ้น เป็นการตอบแทนที่หัวหน้าครอบครัวเสียสละในการลงมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันก็ขอให้คนในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบซึ่งทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน มีความรักความสามัคคีและสมานฉันท์ เพราะสิ่งนี้จะทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบสุขในที่สุด และก่อนที่จะเดินทางกลับ ผบ.ทร.ได้เข้าประชุมลับที่ห้องประชุมภายในค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ รับทราบข้อขัดข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรับผิดชอบทั้ง 5 อำเภออีกด้วย