xs
xsm
sm
md
lg

เพิ่มงบ400ล.เยียวยา3จว.ใต้ ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมกำลังพล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.)ว่า ที่ประชุมมีการสรุปผลการทำงานของ กยต.ตั้งแต่ปี 2548– ก.ย.2552 ซึ่งรัฐบาลใช้เงินเยียวยาไปแล้วรวม 2,225 ล้านบาท โดยแยกเป็นชดเชย และเยียวยาผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และผลกระทบที่ต่อเนื่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนผู้เสียชีวิต ,จ่ายชดเชยทรัพย์สินที่มีการเสียหาย และจ่ายในเชิงฟื้นฟูการประกอบอาชีพ
นายสาทิตย์ กล่าวต่อถึงกรอบที่จะต้องใช้ในปี 2553 โดยมีการประเมินย้อนหลังว่ากรอบครม.เดิมอนุมัติงบไว้ปีละไม่เกิน 900 ล้านบาทแต่การใช้จริงเฉลี่ยปีละ290 ล้านบาทโดยตัวเลขที่จะต้องไปดูแลกรณีที่เป็นเรื่องของบุตรของผู้เสียชีวิตที่จะต้องส่งเสียเลี้ยงดูจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะกรรมการฯ จึงได้อนุมัติกรอบวงเงินปี 2553 ที่ 400 ล้านบาท โดยยืนตามหลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่และจะเพิ่มหลักเกณฑ์ใหม่ คือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และคณะกรรมการฯเห็นว่า การทำงานมาตั้งแต่ปี 2548 ยังไม่เคยมีการประเมินผลก็มี การตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผล ที่มีโครงสร้างหลัก 4 ส่วนคือ จากบุคคลภายนอก ที่เป็นนักวิชาการ สื่อมวลชน ภาคประชาชน และภาคราชการ โดยในการประชุมกลางเดือน พ.ย. ก็จะอนุมัติให้คณะกรรมการไปทำการประเมินผลโดยให้เสนอผลการประเมินครั้งแรกในเดือนก.พ.2553 ซึ่ง กยต.จะจัดงานครบรอบปีของการเยียวยา
อย่างไรก็ตาม กับงบประมาณที่อนุมัติใหม่จำนวน 400 ล้านจะใช้ในช่วงเวลา 1 ปี โดยจะแบ่งเป็นด้านต่างๆ 4 ด้านคือ 1.ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตามหลักเกณฑ์ของมติครม. 2. ค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการชุดต่างๆเดิม 9 ชุดใหม่ 1 ชุด 3. ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทรัพย์สินเสียหาย และ 4. การให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นายสาทิตย์ กล่าวต่อด้วยว่าที่ประชุม กยต. มีการอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ ที่ดูแลในเรื่องสุขภาพจิตโดยจะดูแลไปถึงครอบครัว ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่อยู่นอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
** ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมกำลังพล
วันเดียวกันนี้ (26 ต.ค.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. เดินทางพร้อมด้วย พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และคณะไปยังกองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมเยียน มอบเงินบำรุงขวัญและวัตถุมงคล แก่กำลังพลนาวิกโยธินในพื้นที่รับผิดชอบ 5 อำเภอของ 2 จังหวัด คือ อ.เมือง อ.ยี่งอและ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รวมทั้ง อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี โดยมี นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายจุฬาภรณ์ และ ผบ.ชุดเฉพาะกิจ 5 อำเภอ รวมทั้งกำลังพลกว่า 500 นายให้การต้อนรับ บริเวณสนามลานอเนกประสงค์ กองบังคับการกรมทหารราบที่ 3 รักษาพระองค์ฯ
พล.ร.อ.กำธร ได้กล่าวมอบนโยบายพอสรุปใจความว่า ขอขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เป็นตัวแทนที่ดีของกองทัพเรือ ที่ผ่านมายุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา นำมาปฏิบัติแล้วทำให้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก และคงน้อมนำเป็นนโยบายต่อเนื่องของปี 2553 ด้วยเช่นกัน เพราะทำให้เข้าใจชาวบ้านและรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดและเป็นการเข้าถึงประชาชนอย่างยั่งยืน
สำหรับปัญหาการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดี จะใช้ยุทธวิธีการรบเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องยึดพื้นที่ด้วยการได้ใจของชาวบ้านเป็นสำคัญ ทำให้คนในพื้นที่มีความปลอดภัย รักและเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ได้ โดยต้องระมัดระวังอย่าไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดกับชาวบ้านอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจจะเป็นการสร้างปัญหาเกิดขึ้นได้
ในส่วนการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกๆ วันนั้น เพื่อความไม่ประมาทขอให้ทหารทุกนายมีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความรัดกุมมากขึ้นเพื่อเป็นการลดความสูญเสียของกำลังพล ในส่วนใกล้ช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดทำแผน ในการรักษาความปลอดภัยให้ กับครู นักเรียน และโรงเรียน ให้รัดกุมเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของการบำรุงขวัญก็เป็นนโยบายหนึ่งที่ พล.ร.อ.กำธร เน้นย้ำ โดยได้เปิดเผยว่า ทั้งกำลังพลและครอบครัวที่อยู่ห่างไกล จะมีการเพิ่มสวัสดิการเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายยิ่งขึ้น เป็นการตอบแทนที่หัวหน้าครอบครัวเสียสละในการลงมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันก็ขอให้คนในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบซึ่งทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน มีความรักความสามัคคีและสมานฉันท์ เพราะสิ่งนี้จะทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบสุขในที่สุด และก่อนที่จะเดินทางกลับ ผบ.ทร.ได้เข้าประชุมลับที่ห้องประชุมภายในค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ รับทราบข้อขัดข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรับผิดชอบทั้ง 5 อำเภออีกด้วย

**ยิงถล่มชาวบ้านดับอีก 2 ราย
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ พ.ต.ท.ปรีดี นาคช่วย รอง ผกก.ป.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายชนบท ม.5 บ้านคอกวัว ต.ปล่องหอย ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายภานุพงษ์ รักษา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.4 ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และนายนิกร สุขสวัสดิ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ม.4 ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทั้ง 2 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าและขนาด 9 มม.เข้าลำตัวและศีรษะจำนวนหลายนัดใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ของผู้ตายล้มอยู่ข้างทาง ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนทั้ง 2 ชนิดตกเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนเกิดเหตุทราบว่าขณะที่นายนิกร ขับขี่รถจักรยานยนต์มีนายภานุพงษ์ นั่งซ้อนเพื่อจะไปหาของป่าในพื้นที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อนอีก 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง ปรากฏว่าเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันขับตามประกบแล้วชักอาวุธปืนกราดยิงถูกผู้ตายเสียชีวิตทันที 2 ศพ ส่วนเพื่อนอีก 3 คนเร่งเครื่องหลบหนีไปได้ ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มในแนวร่วมในพื้นที่

--------------------
กำลังโหลดความคิดเห็น