ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์การเดินรถไฟสายใต้เริ่มคลี่คลายมากขึ้น เปิดให้บริการเพิ่มอีก 8 ขบวนผู้โดยสารคับคั่ง รถท้องถิ่นยังคงหยุดให้บริการเพราะหัวรถจักรยังซ่อมไม่เสร็จ ส่วนสถานีหาดใหญ่เริ่มเปิดเดินรถบรรทุกสินค้าแล้ว – ศาล จ.สงขลาออกคำสั่งห้ามสหภาพฯ ทั้ง 7 คนที่การรถไฟฯ ยื่นฟ้องกระทำการขัดขวางมิให้มีการเดินขบวนรถไฟตามปกติที่ชุมทางสถานีรถไฟทั่วประเทศ
วันนี้(24 ต.ค.) สถานการณ์การเดินรถไฟสายใต้เริ่มคลี่คลายมากขึ้น เนื่องจากในวันนี้สามารถเปิดเดินรถไฟสายยาวได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 ขบวนจากเมื่อวานนี้ที่เปิดวิ่งแค่ 6 ขบวน แต่ก็ยังไม่สามารถเดินรถสุดปลายทางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ทุกขบวนสิ้นสุดแค่สถานีรถไฟหาดใหญ่เท่านั้น สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการประกอบด้วยรถเร็วและรถด่วนจากกรุงเทพฯ 4 ขบวนและรถเร็วและรถด่วนจากสถานีหาดใหญ่อีก 4 ขบวน ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุด ในขณะที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เริ่มปล่อยขบวนรถบ้างแล้วแต่เป็นขบวนรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศจากสถานีหาดใหญ่ปลายทางสถานีปาดังเบซาร์ ส่วนรถไฟขบวนท้องถิ่นทุกขบวนในภาคใต้ยังคงหยุดให้บริการติดต่อกันเป็นวันที่ 9 เนื่องจากหัวรถจักรทั้ง 15 หัวที่จอดอยู่ที่โรงรถจักรหาดใหญ่ยังซ่อมไม่เสร็จ
ส่วนความคืบหน้าการซ่อมหัวรถจักรนั้นหลังจากที่ทางการรถไฟได้ส่งทีมวิศวกรและช่างจากส่วนกลางพร้อมอุปกรณ์ระบบป้องกันขับคนขับหมดสติหรือวีจีแลนท์(vigilanc)ลงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทีมช่างกำลังเร่งซ่อมแซมหัวรถจักรทั้งหมดเพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดและก่อนเที่ยงวันนี้ทางศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทยจะร่วมประชุมกับฝ่ายซ่อมบำรุงและแกนนำสหภาพรถไฟหาดใหญ่ เพื่อสรุปความคืบหน้าการซ่อมหัวรถจักรและแผนการเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นว่าจะสามารถเปิดให้บริการในขบวนใดบ้าง
ทางด้านสำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลาได้นำคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา มาติดที่โรงรถจักรหาดใหญ่ซึ่งเป็นคำสั่งตามหมายห้ามชั่วคราว ไม่ให้จำเลยทั้ง 7 คน ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยยื่นฟ้องประกอบด้วย สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย นายสาวิทย์ เขียวหวาน(นามสกุลตามหมายศาล), นางสุนันทา สว่างแก้ว, นายบรรจง บุญเนตร, นายธารา แสวงธรรม, นายภิญโญ เรือนเพ็ชร และนายเหลี่ยม โมกงาม กระทำการขัดขวางมิให้มีการเดินขบวนรถไฟตามปกติจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งที่ชุมทางสถานีรถไฟหาดใหญ่และชุมทางสถานีรถไฟต่างๆ ทั่วประเทศ
ส่วนท่าทีของสหภาพรถไฟหาดใหญ่ล่าสุดก็ยังคงยืนยันตามมติเดิมคือพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เดินรถไฟตามปรกติหากผู้บริหารปฏิบัติตามข้อเรียกร้องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินรถทั้งการซ่อมแซมหัวรถจักรให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และนำหัวรถจักรพิเศษซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะกลับมาใช้งานในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้