ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “สายการบินแอร์เอเชีย” เลือกภูเก็ตเป็นฐานการบินแห่งที่ 2 ในประเทศรองจากกรุงเทพฯ บินเชื่อมกับเมืองสำคัญๆในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเดิมเส้นทางฮ่องกง-ภูเก็ต 15 พ.ย.เปิดจองแค่ 5 วันยอดกว่า 2 หมื่นที่นั่ง ตามมาด้วยเส้นทางจาการ์ต้า โฮจิมินห์ เมดานและเชียงใหม่ เผยใช้เวลาทดลองเส้นทาง 3 เดือน หากประสบความสำเร็จตามเป้าขยายเส้นทางบินจากภูเก็ตไปเมืองหลวงทั่วทั้งอาเซียนและเอเชีย
นายทัศพล แบเลเว็ล์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายกาบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวถึงการเลือกภูเก็ตเป็นฐานการบินในประเทศแห่งที่ 2 หลังจากเปิดงาน “AirAsia Loves Phuket Fair ไม่รัก...คงไม่มา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม ที่ ศูนย์การค้าจังซีลอน หาดป่าตอง ซึ่งเป็นงานแฟร์ท่องท่องเที่ยวที่มี่ทั้งจำหน่ายตั๋วเครื่องบินราคาสุดคุ้มและแพกเกจทัวร์ราคาประหยัด ว่า แอร์เอเชียซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำได้วางแผนให้ภูเก็ตเป็นฐานการบินแห่งที่ 2 ในประเทศ รองจากสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองที่มีศักยภาพที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวรองลงมาจากกรุงเทพฯ และจะเห็นได้ว่าจากการที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยลดลงแต่นักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตกลับลดลงน้อยกว่าพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มาก ไม่เกิน 5% ซึ่งเรามั่นใจในความเป็นเมืองท่องเที่ยวของภูเก็ตมาก
ประกอบกับภายหลังจากที่แอร์เอเชียได้เปิดจองตั๋วในเส้นทางบินฮ่องกง-ภูเก็ต เพียง 5 วัน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมากในเวลาอันรวดเร็วมียอดจองเข้ามากว่า 20,000 ที่นั่ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศใกล้บ้านที่ต้องการบินตรงเข้ามาภูเก็ตมีเป็นจำนวนมาก โดยที่เมดานก็ยังไม่มีใครเคยบิน เพราะเมดานไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยว แต่คนเมดานก็มีฐานะมีกำลังที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตได้ และโฮจิมินห์เองคนไทยก็ต้องการเดินทางไปเที่ยวจำนวนมากเช่นกัน รวมทั้งคนต่างชาติที่ทำงานอยู่ที่โฮจิมินห์ก็ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ดังนั้น แอร์เอเชียจึงได้ตัดสินใจเลือกภูเก็ตเป็นฐานการบินแห่งที่ 2 ในประเทศ โดยจะเริ่มทำการบินจากภูเก็ตไปเมืองต่างๆตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2552เป็นต้นไปในเส้นทางฮ่องกง-ภูเก็ต และจาการ์ต้า และในเดือนธันวาคมจะเปิดเส้นทางภูเก็ต-เชียงใหม่ ภูเก็ต-เมดาน ภูเก็ต-โฮจิมินห์และภูเก็ต-เชียงใหม่ เป็นต้น โดยใช้เครื่องบินแอร์บัสเอ 320 จำนวน 2 ลำ เป็นเครื่องบินที่นำมาจากกรุงเทพฯ 1 ลำ และซื้อใหม่ 1 ลำ ซึ่งเพียงพอกับเส้นทางที่เปิดบิน เนื่องจากเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก รวมทั้งจะมีการจัดพนักงานเข้ามาที่ภูเก็ตประมาณ 200 อัตรา
สำหรับการลงทุน นายทัศพล กล่าวว่า ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก เพราะพนักงานบางส่วนก็แบ่งมาจากกรุงเทพฯ มีการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเก็บอุปกรณ์ดูแลบำรุงเครื่องบิน มีการขยายสำนักงาน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวเลขการลงทุนที่น้อยมากและไม่ขอเปิดเผยงบประมาณในการลงทุนเพิ่มครั้งนี้
นายทัศพล กล่าวต่อว่า การเปิดเส้นทางใหม่โดยใช้ภูเก็ตเป็นฐานการบิน เราจะใช้เวลาในการประเมินผลการดำเนินการประมาณ 3 เดือน ซึ่งมั่นใจมากว่ายอดที่นั่งในแต่ละเที่ยวบินไม่น่าจะต่ำกว่า 78-85% และโดยเฉพาะเส้นทางฮ่องกง-ภูเก็ตยอดจองไม่น่าจะต่ำกว่า 90% จากการที่ได้มีการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับเส้นทางเมดานที่กำลังจะทำประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ เพราะเราเปิดบินในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของภูเก็ตพอดี อย่างไรก็ตามในช่วงโลว์ชีชั่นอยากจะให้อยู่ที่ประมาณ 75-78% ก็ไม่ได้หนักใจมากหากมีการกระตุ้นตลาดดีก็สามารถที่จะดึงนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียน เอเชีย เข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตได้ จากที่อาเซียนมีประชาชนรวมกันถึง 680 ล้านคน ซึ่งเราจะเข้ามาจับตลาดในกลุ่มอาเซียนในช่วงโลว์ซีซัน
นายทัศพล กล่าวอีกว่า หากระยะเวลา 3 เดือนที่เราทำการทดลองบินในเส้นทางต่างๆ จากภูเก็ตไปยังเมืองต่างๆประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 80% จะมีการขยายเส้นทางบินไปยังเมืองหลวงของทุกเมืองในอาเซียน เอเชีย จีนทางตอนใต้ อินเดีย เพราะชาวต่างชาติที่มาภูเก็ตเป็นนักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด และมีการวางแผนล่วงหน้าทำให้ตัวเลขในเส้นทางภูเก็ตค่อนข้างที่จะนิ่งมาก
นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มเครื่องบินที่ภูเก็ตขึ้นเป็น 4-5 ลำก็ได้ในอนาคต เพราะตอนนี้ที่เราทำการบินมาภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตวันละ 600 คน จากเครื่องบิน 2 ลำ และหากในอนาคตเราเพิ่มเครื่องบินเป็น 4 ลำ จะนำนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตวันละ 1,200 คน ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยว
สำหรับเป้าหมายของแอร์เอเชียนั้น ได้กำหนดไว้มีผู้ใช้บริการปีละ 5.2 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ทำได้แล้วประมาณ 5.1 ล้านคน
