นครศรีธรรมราช - นักโทษเรือนจำนครศรีธรรมราช คว้าปริญญาตรี 3 ใบรวด วอนกรมราชทัณฑ์จัดการศึกษาระดับปริญญาโท ขยายโอกาสนักโทษหาความรู้ใส่ตัว แนะเยาวชนห่างไกลยาเสพติดเอาชีวิตนักโทษเป็นตัวอย่าง
วันนี้ (28 ก.ย.) นายสมชัย หลีอาภรณ์ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงการจัดการบริหารในงานพัฒนาผู้ต้องขังภายในเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ว่า ขณะนี้การจัดการนั้นมีความสำเร็จอย่างมากทั้งในเรื่องของการให้มีการเรียนการสอนในหลักสูตรต่างๆ
โดยขณะนี้จากนักโทษกว่า 3 พันคน ทำให้นักโทษที่ขาดโอกาสทางการศึกษาและเดินหลงในทางที่ผิดมีโอกาสเรียนรู้และปรับทัศนคติได้เป็นอย่างดีในการศึกษาทุกระดับทั้งในการศึกษาพื้นฐานถึง 252 คน ระดับ ปวช. 27 คน ระดับการอบรมวิชาชีพระยะสั้น 668 คน และที่สำคัญในระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 271 คน และล่าสุดนั้นจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี 15 คนเป็นชาย 14 คนหญิง 1 คน
“ในรุ่นก่อนๆ ที่มีการจบการศึกษาและพ้นโทษออกไปนั้นหลายคนได้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการเรียนในเรือนจำที่เขามีเวลามากและเมื่อเรียนมากสามารถใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนไปประกอบสัมมาชีพในหลากหลายสาขาอาชีพทั้งธุรกิจส่วนตัว หรือแม้กระทั่งทนายความหลายคนได้จบการศึกษาจากที่นี่ และหลายคนพร้อมที่จะมาให้ความรู้ประสบการณ์ชีวิตกับผู้ต้องขังที่ยังไม่พ้นโทษเพื่อให้เป็นตัวอย่างกับเขา หลายคนขณะนี้จบการศึกษาปริญญาใบที่ 3 ใบที่ 4 กันแล้ว” ผอ.ส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง กล่าว
ภายหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำผู้สื่อข่าวไปยังแดนบำบัด หรือฝ่ายการศึกษาและพัฒนา ศูนย์การเรียนเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งบรรยากาศภายในนั้นเต็มไปด้วยความร่มรื่นของพันธ์ไม้ ภายในมีห้องสมุดขนาดย่อม มีผู้ต้องขังจำหนวนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ
ส่วนภายนอกนั้นประกอบกิจกรรมต่างๆ ทั้งฝึกซ้อมดนตรี และอีกหลายกิจกรรม ส่วนนักศึกษาที่จบการศึกษาแล้วได้สวมชุดครุยของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อย่างเต็มภาคภูมิพร้อมทั้งให้มีการบันทึกภาพได้อย่างไม่ปิดบังใบหน้า
นช.พยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งได้ศึกษาขณะต้องโทษมาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ต้องโทษ นช.พยุทธ สามารถเรียนจบปริญญาตรีแล้วรวม 3 ใบ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองได้ต้องโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติดประเภท เฮโรอีนน้ำหนักรวม 125 กรัม ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต จำคุกมาแล้ว 11 ปี เศษ ตลอดเวลาที่จำคุกนั้นได้ใช้เวลานอกเหนือจากการทำงานประจำวันเล่าเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขณะนี้จบการศึกษาปริญญาตรีแล้ว 3 หลักสูตร คือ นิติศาสตร์ เกษตรศาสตร์ วิชาเอกการสหกรณ์ และรัฐศาสตร์เป็นปริญญาล่าสุด
“ผมอยากให้ชีวิตของนักโทษเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนรุ่นหลัง ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างการก้าวไปในทางที่ผิดเส้นทางไม่ได้สวยหรู มีแต่ความเดือดร้อนตัวอย่างของผมถ้าอยู่ด้านนอเกนั้นมีเวลาในการทำอะไรได้อีกมาก แต่เมื่อมาอยู่ในเรือนจำต้องโทษเพราะความผิดมาแล้ว สิ่งที่ทำได้คือการกลับตัวและหันมาเล่าเรียนหาความรู้ใส่ตัวเอง ขณะนี้ได้มีพระราชทานอภัยโทษลดโทษให้ผมเหลืออีก 13 ปีเท่านั้น และคาดว่า จะได้วันลดเรื่อยๆ ทุกปี เมื่อออกไปผมจะเป็นทนายความอาชีพ” พยุทธ ระบุ
พยุทธ ยังระบุอีกว่า อยากให้กรมราชทัณฑ์และเรือนจำจัดให้มีการศึกษาในระดับชั้นปริญญาโท เพื่อขยายโอกาสให้นักโทษได้เรียนรู้ และมีโอกาสในการศึกษามากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักโทษ เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วได้เป็นอย่างดี หลายคนต้องเรียนในระดับปริญญาตรีต่อเนื่อง ในหลายสาขาเพราะมีเวลาเหลือหากขยายโอกาสนักโทษอาจจะเรียนไปถึงปริญญาเอกก็เป็นได้
